พรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยรายชื่อคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองชุดใหม่ (Politburo Standing Committee) ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งวันนี้ (23 ตุลาคม) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 20 เมื่อวานนี้ โดยรายชื่อประกอบด้วย สีจิ้นผิง, หลี่เฉียง, จ้าวเล่อจี้, หวังฮู่หนิง, ไช่ฉี, หลี่ซี และ ติงเซวียเสียง
นั่นหมายความว่า หลี่เฉียง ซึ่งถูกวางตัวเป็นเบอร์ 2 ของปูลิตบูโร มีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ในต้นปีหน้า แทนที่ หลี่เค่อเฉียง ที่เกษียณอายุก้าวลงจากตำแหน่ง หลังอยู่ครบ 2 วาระ และไม่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมการกลางพรรคที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
สำหรับหลี่เฉียงนั้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งที่ผ่านมาเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากการใช้นโยบายล็อกดาวน์ศูนย์กลางทางการเงินของจีนอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 2 เดือน จนเกิดความวุ่นวายและทำให้เศรษฐกิจสะดุด
อย่างไรก็ตาม การวางตัวหลี่เฉียงเป็นเบอร์ 2 ตอกย้ำว่าสีจิ้นผิงจะเดินหน้านโยบาย Zero-COVID หรือโควิดเป็นศูนย์ตามที่ประกาศไว้ในสุนทรพจน์เปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ยังสะท้อนว่าสีจิ้นผิงอาจกระชับอำนาจมากขึ้น เพราะได้คนที่สนิทสนมมาอยู่ข้างกาย
การก้าวขึ้นมาของหลี่เฉียงถือว่าผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เพราะก่อนหน้านี้มีการจับตา วังหยาง หานเจิ้ง และหูชุนหัว ว่าจะมีคนใดคนหนึ่งขึ้นมาเป็นนายกฯ โดยแคนดิเดตเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่อยู่ขั้วตรงข้ามสีจิ้นผิง ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติในอดีตที่ผ่านมา จีนมักแบ่งสรรอำนาจที่อยู่บนสุดในลักษณะที่สร้างความสมดุล โดยหลี่เค่อเฉียงเป็นหนึ่งในตัวอย่าง ซึ่งเขาเริ่มต้นถนนสายการเมืองจากสันนิบาตยุวชนพรรคคอมมิวนิสต์ ต่างจากสีจิ้นผิงที่เป็นลูกหลานของอดีตผู้นำ
ขณะที่สีจิ้นผิงได้รับการต่ออายุจากที่ประชุมครั้งนี้ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคและผู้นำเบอร์ 1 อีกสมัย กรุยทางสู่การนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีในปีหน้า ซึ่งจะทำให้เขาดำรงตำแหน่งรวม 15 ปีเป็นอย่างน้อย ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองจีน
ภาพ: Lintao Zhang / Getty Images
อ้างอิง:
