วันนี้ (23 กันยายน) ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยไม่จำเป็นต้องลดตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดย ดร.ศุภวุฒิ ระบุว่า ตามหลักการนั้นถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงทั้งโลกเขาพึ่งเงินดอลลาร์ และใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายผ่านการลดดอกเบี้ย ดังนั้นประเทศที่ไม่ผ่อนคลายค่าเงินก็จะแข็ง ถ้าคุณทนได้ก็ไม่ว่ากัน
ดร.ศุภวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ตนมีจุดยืนมานานแล้วว่าดอกเบี้ยนโยบายไทยไม่ควรเกิน 2% ตั้งแต่ช่วงที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.5% เมื่อปีก่อน จากการพิจารณาถึงเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงเวลานั้น
วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราว 32.86-33.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นมา 4% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) นับว่าแข็งค่าเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค
เงินเฟ้อไทยขึ้นยาก แม้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ดร.ศุภวุฒิ กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ยาก แม้จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ตาม เนื่องจากการปรับขึ้นค่าแรงเป็นการทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น (Cost Push) แต่ถ้าหากอุปสงค์ (Demand) ไม่มา ผู้ผลิตก็จะยังส่งต่อราคาสินค้าไม่ได้ ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นยาก
ดร.ศุภวุฒิ อธิบายอีกว่า ภาวะดังกล่าวทำให้บรรดานักธุรกิจออกมาคัดค้านการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างรุนแรง เนื่องจากนักธุรกิจรู้ว่าถ้ามีการปรับขึ้นค่าแรงจริง เขาจะส่งต่อราคาไม่ได้เลย ต้องปิดกิจการ
“สังเกตว่าการคัดค้านการขึ้นค่าแรงครั้งอื่นๆ ไม่แรงขนาดนี้ แต่ครั้งนี้ภาคธุรกิจรู้ว่าสถานการณ์มันแย่มาก ท่ามกลางภาวะที่จีนแข่งขันรุนแรงแบบนี้” ดร.ศุภวุฒิ กล่าว