เดเรก ชอวิน อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจมินนิแอโปลิส ถูกศาลพิพากษาจำคุก 22 ปี 6 เดือน จากความผิดในคดีฆาตกรรม จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี ซึ่งโทษดังกล่าวนานกว่าเกณฑ์ 12 ปีครึ่งของรัฐมินนิโซตา โดยผู้พิพากษาให้เหตุผลว่า อดีตตำรวจผิวขาวรายนี้ “ใช้อำนาจในทางที่ผิดและกระทำทารุณโหดร้าย” ต่อ จอร์จ ฟลอยด์
ชอวิน วัย 45 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดในเดือนเมษายน หลังการพิจารณาคดีนาน 6 สัปดาห์ โดยอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจมินนิแอโปลิสใช้เข่ากดคอฟลอยด์เป็นเวลานานกว่า 9 นาที จนกระทั่งฟลอยด์ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด แม้ฟลอยด์ร้องบอกหลายครั้งว่าเขาหายใจไม่ออกก็ตาม
การตัดสินโทษจำคุก 270 เดือนโดยผู้พิพากษา ปีเตอร์ เคฮิลล์ นั้นน้อยกว่าข้อเรียกร้องของอัยการที่ต้องการให้ชอวินถูกจำคุก 30 ปี แต่ก็ยาวนานกว่าเกณฑ์ที่รัฐมินนิแอโปลิสกำหนดไว้ 10 ปี ขณะที่ทางฝ่ายจำเลยขอให้คุมประพฤติ
คำพิพากษานี้ “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอารมณ์หรือความเห็นอกเห็นใจ” ผู้พิพากษาเคฮิลล์กล่าวระหว่างการไต่สวนคดี ณ ศูนย์ราชการเฮนเนพิน เคาน์ตี ในมินนิแอโปลิส
ด้านชอวินแสดงความเสียใจต่อครอบครัวฟลอยด์ และได้กล่าวก่อนการพิพากษาว่า เขาไม่สามารถชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดได้ เนื่องจากเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่กำลังดำเนินอยู่ โดยเขามีแนวโน้มที่จะยื่นอุทธรณ์
ขณะที่ เทอร์เรนซ์ ฟลอยด์ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่ชายของเขา
“ในนามของผมและครอบครัว เราขอเรียกร้องโทษสูงสุด เราไม่ต้องการบทลงโทษเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว” น้องชายจอร์จ ฟลอยด์ กล่าวต่อศาล
จันนา ลูกสาววัย 7 ขวบของจอร์จ ฟลอยด์ พูดผ่านวิดีโอว่าถ้าเธอพูดกับพ่อได้ในตอนนี้ เธอจะบอกเขาว่า “หนูคิดถึงพ่อและหนูรักพ่อค่ะ”
การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ก่อให้เกิดการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางเชื้อชาติครั้งใหญ่ทั่วทั้งสหรัฐฯ และทั่วโลก หลังจากภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวกระทำเกินกว่าเหตุขณะจับกุมตัว จอร์จ ฟลอยด์ นั้นถูกบันทึกเอาไว้ได้และถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ โดย ดาร์เนลลา เฟรเซอร์ ซึ่งอายุ 17 ปีตอนที่ถ่ายคลิปวิดีโอ ได้รับรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการรางวัลพูลิตเซอร์ในเวลาต่อมา
คดีฆาตกรรมจอร์จ ฟลอยด์ ทำให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเชื้อชาติในสังคมอเมริกัน เนื่องจากน้อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกตั้งข้อหา นับประสากับการถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฆาตกรรมระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ดี ชอวินเผชิญ 3 ข้อกล่าวหาในคดีนี้ ได้แก่ ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา (Second-Degree Murder) ฆ่าคนตายโดยประมาท (Third-Degree Murder) และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (Second-Degree Manslaughter) ซึ่งเขาถูกพิพากษาในข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดเท่านั้น
แคโรลีน พอว์เลนที แม่ของชอวินกล่าวกับลูกชายของเธอว่า เธอยังคงเชื่อในความบริสุทธิ์ของเขา และขอลดหย่อนผ่อนโทษต่อศาล
“คนทั่วไปจะไม่มีวันได้รู้จักผู้ชายที่รักและห่วงใยผู้อื่นในแบบที่เขาเป็น แต่ครอบครัวของเขารู้จักดี” เธอกล่าว “ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเดเรก”
ผู้พิพากษาเคฮิลล์ระบุเหตุผลของคำพิพากษาว่า “ภารกิจหนึ่งของกรมตำรวจมินนิแอโปลิสคือการรับฟังเสียงและเคารพประชาชน แต่แทนที่ชอวินจะปฏิบัติตามภารกิจของกรมตำรวจมินนิแอโปลิส เขากลับปฏิบัติต่อฟลอยด์อย่างไม่เคารพ และปฏิเสธศักดิ์ศรีที่มนุษย์ทุกคนพึงมี”
ด้านอัยการ เบนจามิน ครัมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวฟลอยด์ในคดีแพ่งต่อเมืองมินนิอแอโปลิส กล่าวว่า “คำพิพากษาเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาความยุติธรรมทางอาญาได้”
ภาพ: Reuters
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: