การปฏิรูป ‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เป็นอีกหนึ่งความพยายามในการดำเนินการในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งเผชิญกับข้อวิจารณ์ทั้งจากภายนอกและภายในอย่างมาก
ล่าสุด นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานคณะกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่มี พล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานคณะกรรมการ ได้พิจารณาถึงเรื่องข้อเสนอที่จะต้องเสนอส่งให้รัฐบาลเกี่ยวกับการบริหารบุคคล โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งรัฐบาลต้องการได้เรื่องนี้ภายในสิ้นปี 2560 ฉะนั้นวันนี้จึงเป็นการพิจารณาขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายประกอบร่าง พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ ฉบับ พ.ศ. …
ขณะนี้ พล.อ. บุญสร้าง ได้ลงนามในหนังสือเสนอให้กับรัฐบาลแล้ว เช่น การปรับปรุงโครงการอำนาจ ก.ต.ช. ให้เป็นองค์กรกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ตำรวจ และยกเลิกอำนาจการคัดเลือกแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วน ก.ตร. ให้เป็นองค์กรกำหนดหลักเกณฑ์ การบริหารงานบุคคล และตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งมีอำนาจในการพิจารณาคัดเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งการปรับปรุงในครั้งนี้เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภารกิจของตำรวจ
สำหรับโครงสร้างของ ก.ต.ช. ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ และมีปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการ และเลขานุการ ส่วนโครงสร้าง ก.ตร. ประกอบด้วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานกรรมการ และมีเลขาธิการ ก.พ. จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจเข้ามาเป็นกรรมการในการพิจารณาตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อนนำเสนอให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย
นายมานิจ กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการพิจารณาร้องทุกข์ หรือ ก.รท. ที่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจ จะมีรองเลขาธิการ ก.พ. ตามที่เลขาธิการ ก.พ. มอบหมาย มีผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่เคยเป็นตำรวจมาก่อน จำนวน 3 คน และอีก 4 คนจะพิจารณาจากข้าราชการตำรวจตั้งแต่ผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และในวันที่ 10 มกราคม 2561 จะมีการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดใหญ่ โดย พล.อ. บุญสร้าง เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามในประเด็นการขับเคลื่อนปฏิรูปในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาที่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา