วันนี้ (19 ตุลาคม) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนต่อความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่คนไทยบางส่วนเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน
รองโฆษก ตร. ได้ออกคำเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการรับจ้าง เปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) และเดินทางข้ามแดนไปสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด
การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรงและมีโทษหนักถึงสองกระทง ดังนี้:
1. ความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า: ตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568 มาตรา 9 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท
2. ความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”: ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 25 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 80,000 บาท ถึง 300,000 บาท
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ได้ยกตัวอย่างคำพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยศาลได้พิพากษาจำคุกผู้กระทำความผิด (เจ้าของบัญชีม้าและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ) ถึง 41 ปี 258 เดือน และจำคุกผู้ที่เป็นธุระจัดหา (ผู้ดูแลคอกม้า) สูงถึง 119 ปี 234 เดือน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว และหากพบเห็นหรือมีเบาะแสของผู้ที่ชักชวนหรือเป็นธุระจัดหาบุคคลให้ไปเปิดบัญชีม้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191, 1599 หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง