วานนี้ (20 ตุลาคม) เมื่อเวลา 21.20 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ด.ต. เชาวลิต พุ่มขจร ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ก่อเหตุขโมยปืนหลวงเกือบ 100 กระบอกของ สภ.ปากเกร็ด ไปขาย-จำนำ เพื่อไปใช้หนี้พนัน
โดยเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ใกล้ชายแดน ขณะเตรียมหลบหนีไปกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต. พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต. ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ร่วมสอบสวน
พล.ต.ต. พนัญชัยกล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพ ก่อเหตุเพราะติดหนี้การพนัน และเนื่องจากผู้ต้องหาเองมีหน้าที่ดูแลการเบิกจ่ายปืน สบช่องโอกาสก่อเหตุ เริ่มทำมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทยอยเอาปืนออกมาขายเรื่อยๆ เป็นปืนกล็อก ปืนเอ็มโฟ ปืนแม็กกาซีนซิกซาวเออร์ ขายขั้นต่ำกระบอกละ 20,000 บาท
แต่ทั้งนี้ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเพิ่งเริ่มทำ เพราะน่าจะทำมานานแล้ว โดยปืนนำไปขายและจำนำกับบุคคลทั่วไป ร้านค้า นอกจากนี้ยังขายและจำนำพวกนักพนันด้วยกัน เจ้าหน้าที่ทราบแหล่งขายแล้ว 9 จุด และจะพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน ขอออกหมายค้นให้ได้ในช่วงเช้าวันนี้ (21 ตุลาคม) ให้ได้ทั้งหมด 9 จุดในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและกรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต. พนัญชัยกล่าวต่อไปว่า ผู้ต้องหาตั้งใจหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำพาสปอร์ตแบบเร่งด่วน มีผู้หญิงชาวต่างชาติจะนำพาหลบหนีหลังข้ามฝั่งไปแล้ว ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่รับซื้อหรือรับจำนำให้นำปืนมาคืน โทษหนักจะเป็นเบาหรือไม่ อาจจะกันตัวไว้เป็นพยาน โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจทำคดีดังกล่าวที่สโมสรตำรวจแล้ว ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เร่งรัดให้จับกุมและติดตามปืนจำนวนดังกล่าวกลับคืนมาให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันเหตุร้าย และยังกังวลเกี่ยวกับงานประชุม APEC
ด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว เชื่อว่าไม่ได้ทำมาเดือนสองเดือน คาดว่าต้องทำมานานแล้ว แต่ต้องขยายผลต่อไป มีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดยทาง พ.ต.อ. พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ (ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ดขณะนั้น) ไล่ตรวจสอบอาวุธปืนจนทราบว่าปืนหายไปจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 23.00 น. มีกระเป๋าเดินทาง ด้านในบรรจุปืน 27 กระบอก มาทิ้งไว้บริเวณสโมสรตำรวจ เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นของผู้ซื้อที่กลัวความผิด เจ้าหน้าที่ได้นำมาเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว และจะต้องตรวจพิสูจน์หาผู้ครอบครองต่อไป