วันนี้ (4 กันยายน) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบส่วยทางหลวงว่า จากการตรวจสอบ และได้มีคำสั่งย้ายตำรวจทางหลวงกว่า 40 นายมายังศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดนั้น
เชื่อว่าบางส่วนมีการกระทำความผิดจริง แต่ไม่ได้เจาะจงเฉพาะหน่วยใดหน่วยหนึ่ง มีตัวกลางเป็นคนดำเนินการเก็บส่วยและนำส่งให้หลายส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ไม่พบการเก็บส่วยสติกเกอร์แล้ว แต่หากประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการได้ทันที
ทั้งนี้ คณะกรรมการของ 3 หน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องนี้คือ จเรตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสอบสวนกลาง และรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงดูแลสวัสดิการและการปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวง ซึ่งพบว่าช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น มีผลงานการปราบปรามอาชญากรรมทางหลวงเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับกุมรถเถื่อน การค้ามนุษย์ ป้ายทะเบียนปลอม และการปราบปรามยาเสพติด
ส่วนการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวงคนต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และต้องรอให้การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสร็จสิ้นก่อน โดยปัจจุบันก็ยังทำงานร่วมกับรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงด้วยดี ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง