วันนี้ (31 มีนาคม) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมทางการเมืองบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำวานนี้ว่า ภาพรวมถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปโดยสงบ มีเหตุกระทบกระทั่งเล็กน้อยจากกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มที่พยายามไม่ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ ต้องมีการเจรจาขอความร่วมมือหลายครั้งจึงยอมกลับไปอยู่ในจุดที่กำหนด
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในช่วงนี้ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ และตามคำสั่งก็ระบุชัดเจนตามมาตรา 9 เรื่องการห้ามมิให้มีการชุมนุม มั่วสุม หรือทำกิจกรรมใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทำให้ต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทุกกลุ่มอย่างน้อย 2 ข้อหาคือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และเสี่ยงต่อการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ ส่วนจะมีบุคคลใดเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีบ้าง ต้องรอผลการตรวจสอบภาพจากคลิปวิดีโอก่อน
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวอีกว่า ยังมีข้อหาอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาด้วย เช่น กรณีการไม่ปฏิบัติตามประกาศ พยายามฝ่าฝืนก่อความวุ่นวายในการชุมนุม ก็ต้องนำไปพิจารณาว่ามีกี่คนที่เข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดี เป็นความผิดฐานพยายามหรือกระทำการ ส่วนความผิดฐานกีดขวางจราจร แม้ผู้ชุมนุมจะอ้างว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกีดขวางเอง แต่ในข้อเท็จจริงยังมีการเปิดการจราจรบางส่วนตามปกติอยู่ อีกทั้งผู้ชุมนุมได้ลงไปทำกิจกรรมบนพื้นผิวถนน ไม่ปฏิบัติตามคำเตือนที่ประกาศให้อยู่บนทางเท้า ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีข้อหานี้ด้วย
“สำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สำคัญทางราชการ หลังยุติการชุมนุมวานนี้ เวลา 22.00 น. ได้ให้เคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์บนสะพานชมัยมรุเชฐออก เพื่อเปิดการจราจรกลับมาเป็นปกติ แต่บริเวณข้างคลองผดุงกรุงเกษมที่ผู้ชุมนุมเคยใช้เป็นสถานที่ตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า ยังคงให้เจ้าหน้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยจนกว่าสถานการณ์ข่าวจะเชื่อได้ว่าไม่มีเหตุความวุ่นวายแล้ว” พล.ต.ต. ปิยะกล่าว