วานนี้ (15 กันยายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้วิทยุสั่งการด่วนที่สุดถึงผู้บัญชาการหน่วยงานต่างๆ กำชับมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบ อุทกภัย ให้เพิ่มความถี่ในการออกตระเวนตรวจตราป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังการก่อเหตุลักทรัพย์ซ้ำเติมพี่น้องประชาชน หากจับกุมได้ให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินการไปยังผู้ร่วมขบวนการทุกราย ดำเนินการให้เด็ดขาดและถึงที่สุดทุกมิติ โดยมาตรการต่างๆ ประกอบด้วย
- เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุอาชญากรรมในลักษณะเป็นการซ้ำเติมประชาชน เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ และชุดช่วยเหลือประชาชนออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบอุทกภัย
- ปรับแผนการตรวจ การจัด และควบคุมสายตรวจทุกประเภท ให้เหมาะสมกับพื้นที่และห้วงเวลา โดยประสานความร่วมมือทั้งด้านข้อมูลและการปฏิบัติกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และอาสาสมัคร บูรณาการร่วมกันออกตรวจ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสในการลักทรัพย์สินหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ชุมชนเมืองหรือพื้นที่ที่ไม่ได้ประสบปัญหาอุทกภัย ซึ่งอาจมีผู้คนอพยพเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อันอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงและจุดล่อแหลม โดยการเพิ่มความเข้มและความถี่ในการออกตรวจเป็นพิเศษ
- ตั้งจุดตรวจบุคคล ยานพาหนะ ในเส้นทางล่อแหลมหรือเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบอาวุธ วัตถุต้องสงสัย และยาเสพติด
- จัดทำแผนเผชิญเหตุคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ตู้บริการเงินสด (ATM) ตู้เติมเงิน ย่านธุรกิจการค้า โดยกำหนดจุดตรวจ/จุดสกัดเคลื่อนที่ จุดก้าวสกัดจับที่ชัดเจน มีการทบทวนและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
- ให้หัวหน้าหน่วยกำกับดูแลการปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งด้านการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว การดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ และการปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาเปิดพื้นที่สถานีตำรวจ จุดตรวจ ตู้ยาม เป็นสถานที่พักพิงของผู้ประสบภัยชั่วคราว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัย และเป็นการป้องกันภัยที่เกิดจากการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ได้
- ให้หน่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสในการก่ออาชญากรรม เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการโจรกรรมทรัพย์สินและประทุษร้ายต่อทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งแนะนำช่องทางการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ทางสายด่วน 191 หรือ 1599 หรือช่องทางการสื่อสารกับสถานีตำรวจในพื้นที่โดยตรง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ภัยพิบัติและประกาศแจ้งเตือนของหน่วยราชการที่เกี่ยวกับอุทกภัยในพื้นที่
- ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน