วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัฐสภา สัญญา นิลสุพรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงผลการประชุม กมธ. ว่าในวันนี้ได้เชิญผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 5, ผู้แทนสำนักงานจเรตำรวจ, ผู้แทนกองการต่างประเทศ และผู้แทนจากสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทองหล่อ เข้าให้ข้อมูลในการพิจารณาติดตามความคืบหน้ากรณี วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส
สัญญากล่าวว่า ที่ประชุม กมธ.ตำรวจได้มีการพูดคุยและหารือใน 2 ประเด็นหลัก คือ
ประเด็นที่ 1 เรื่องการดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งผู้ชี้แจงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองการต่างประเทศ ได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือประสานไปยังประเทศต่างๆ ได้รับความร่วมมือตอบรับจากต่างประเทศเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันทางตำรวจสากลออกหมายแดงในคดีนี้แล้ว
ขณะเดียวกันทาง กมธ. ได้เสนอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาตรการเชิงรุกเข้ามาเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา เช่น การให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปต่างประเทศเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา ซึ่งประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่ามีข้อติดขัดเรื่องของงบประมาณ
สัญญากล่าวอีกว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ทราบว่าขณะนี้วรยุทธอาจพักอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรีย ในส่วนงบประมาณที่จะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ต้องหาที่ประเทศออสเตรียนั้นจะต้องหารือในที่ประชุม กมธ. อีกครั้งว่าจะมีทางออกเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเชิญครอบครัวของวรยุทธเข้าให้ข้อมูลกับทาง กมธ. หรือไม่นั้น มองว่าครอบครัวไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และมองว่าญาติก็อาจจะต้องปกป้องบุคคลในครอบครัวอยู่แล้ว ซึ่งการสืบข้อเท็จจริงจึงมุ่งเน้นไปที่มาตรการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประเด็นที่ 2 คือ การดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการไม่ให้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้แทนจากสำนักงานจเรตำรวจได้กล่าวถึงภาพรวมต่อกรณีดังกล่าวว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีวรยุทธ 18 ราย ซึ่งจากการสืบสวนข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถมีจำนวน 4 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและคาดว่าจะสามารถส่งรายงานการสืบสวนที่แล้วเสร็จได้ในเดือนธันวาคมนี้