×

กมธ.ตร. ตรวจเยี่ยม รพ.ตำรวจ ขึ้นชั้น 14 พบชุดเฝ้าทักษิณ จี้ราชทัณฑ์ส่งเอกสารเปิดข้อเท็จจริง ของบนายกฯ ซ่อมวงจรปิด

โดย THE STANDARD TEAM
12.01.2024
  • LOADING...
ชัยชนะ เดชเดโช

วันนี้ (12 มกราคม) ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ (กมธ.ตร.) สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะทำงาน เข้าศึกษาดูงานที่อาคารศรียานนท์ กองบังคับการอำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ โดยมี พล.ต.ต. สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์ สบ.7 โรงพยาบาลตำรวจ และคณะ ร่วมชี้แจงรายละเอียดข้อซักถามต่างๆ

 

สำหรับการมาศึกษาดูงานของ กมธ.ตร. นั้นเพื่อสอบถามขั้นตอนการปฏิบัติของผู้ต้องขังที่ส่งมารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ว่ามีวิธีและรูปแบบขั้นตอนอย่างไร ปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกคนเท่าเทียมหรือไม่ รวมถึงมาสอบถามกรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัยและให้ความสนใจคือ การรักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นผู้ต้องขังที่รักษาตัวอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 ว่ามีการปฏิบัติอย่างไร รักษาตัวอยู่ที่ชั้นไหน อย่างไรบ้าง

 

ต่อมาเวลา 11.55 น. ชัยชนะ พร้อมด้วย ทิพา ปวีณาเสถียร สส. ลำปาง พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.ตร. และทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ได้เดินทางไปที่อาคารภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ซึ่งเป็นอาคารพักรักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางชัยชนะระบุเพียงว่า ขออนุญาตไปตรวจดูตามหน้าที่ แล้วจะกลับมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง

 

โดยทั้งหมดได้ขึ้นรถกอล์ฟไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจ จากนั้นมีรายงานว่า ชัยชนะและคณะกรรมาธิการฯ ได้ขึ้นไปถึงชั้น 14 และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบริเวณหน้าเคาน์เตอร์พยาบาลของสถานที่พักของผู้ป่วย แต่ไม่ได้เข้าไปภายในห้องพักของผู้ป่วย ซึ่งใช้เวลาพูดคุยประมาณ 10 นาที

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจได้นำคณะกรรมาธิการฯ ไปเยี่ยมนักโทษที่รักษาตัวอยู่บริเวณชั้น 7 ของอาคารแห่งนี้ต่อด้วย

   

จากนั้นชัยชนะได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า มีผู้ต้องขังมารักษาตัวที่โรงพยาบาลค้างคืนท่านเดียวคือทักษิณ ส่วนรายอื่นๆ เป็นผู้ต้องขังมารักษาแบบเช้าเย็นกลับ ทั้งนี้ ตนเองได้หารือตามกรอบระเบียบกับทางโรงพยาบาลตำรวจ จึงได้อนุญาตให้ขึ้นไปชั้น 14 เพื่อไปดูขั้นตอนวิธีการคุมขัง ได้พบทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และตำรวจในท้องที่รวม 8 นาย

 

ส่วนที่ถามว่าได้เจอตัวนักโทษหรือไม่ เรื่องนี้เป็นความเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ส่วนบุคคลฯ ที่อนุญาตให้ได้เท่านี้ ฉะนั้นสิ่งที่อนุญาตตามกฎหมายคือได้พบเจ้าหน้าที่ประจำชั้น

 

ชัยชนะกล่าวต่อว่า ส่วนจะยืนยันว่าทักษิณพักอยู่ที่โรงพยาบาลหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งก็แจ้งมาก่อนหน้านี้ว่า เป็น พ.ร.บ.ส่วนบุคคลฯ ทั้งนี้ เรายืนยันว่าไม่ได้มาขอเยี่ยมใครคนใดคนหนึ่ง เพียงมาดูว่าวิธีปฏิบัติเท่าเทียมหรือไม่ ส่วนวิธีการรักษาก็ชี้แจงไม่ได้ 

 

“ตนขอย้ำว่ามาดูขั้นตอนและวิธีการ เจ้าหน้าที่ควบคุมอย่างไรเมื่อมีผู้ต้องหามาค้างคืน” ชัยชนะกล่าว

 

จากที่ได้พูดคุยคือ ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะมีการผลัดเปลี่ยนเวรเพื่อดูแล 24 ชั่วโมง และต้องมีการรายงานผู้บังคับบัญชาทุก 2 ชั่วโมง เป็นการถ่ายภาพในห้องที่ผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยพักอยู่ ห้องพักไม่ได้มีการล็อก ผู้คุมจะเดินเข้า-ออกได้ทุกเวลา

 

ชัยชนะกล่าวต่อว่า ตนไม่ก้าวล่วงในการรักษาของแพทย์ จากนี้ต้องไปถามทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่าเอกสารที่ กมธ.ตร. ขอไปว่าในแต่ละวันผู้คุมคนไหนที่มาเข้าเวร ผลัดเปลี่ยนเวรอย่างไร ลงชื่ออย่างไร และส่วนของเอกสารค่ารักษาพยาบาลที่แจ้งว่าใช้สิทธิประกันสังคมและถ้าเกินจะใช้เงินส่วนตัวได้ ได้เตรียมให้ตามที่ขอไปแล้วหรือไม่

 

ตนยืนยันว่าส่วนของโรงพยาบาลตำรวจวันนี้ได้ทำชัดเจนครบถ้วนแล้ว ภาพการรักษาที่ให้ไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

“ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคมก็ต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ เมื่อไรที่ชี้แจงไม่เข้าใจจำไว้เลยว่าจำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์ ส่วนโรงพยาบาลตำรวจต้องยอมรับว่าสิ่งที่โรงพยาบาลทำวันนี้ถูกต้องที่สุด ให้ความร่วมมือ ให้ข้อเท็จจริง” ชัยชนะกล่าว

 

ชัยชนะกล่าวทิ้งท้ายว่า การจะยืนยันว่าทักษิณอยู่หรือไม่เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ตนขอยืนยันว่ามาดูกระบวนการและขั้นตอนเท่านั้น

 

นอกจากนี้ชัยชนะยังกล่าวถึงประเด็นที่กล้องวงจรปิดของอาคารรักษาตัวของทักษิณเสียทั้งอาคาร โดยฝากข้อความไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ใช้งบประมาณจำนวน 2 ล้านบาทที่นำไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาซ่อมแซมกล้องวงจรปิดให้ใช้งานได้ นอกจากภายในอาคารแล้ว บริเวณรอบข้างก็พบว่ากล้องวงจรปิดเสียด้วยเช่นกันและเสียมาหลายปีแล้ว

 

ชัยชนะ เดชเดโช ชัยชนะ เดชเดโช ชัยชนะ เดชเดโช ชัยชนะ เดชเดโช ชัยชนะ เดชเดโช

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X