วันนี้ (28 พฤษภาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงมาตรการเข้มงวดในการสกัดกั้นขบวนการค้าประเวณีที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ โดยระบุว่าขณะนี้มีการดำเนินการตรวจคัดกรองบุคคลอย่างเข้มงวดตั้งแต่ขั้นตอนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านระบบ ตม.6 ออนไลน์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกระทรวงการต่างประเทศ
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ระบุว่า ชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยจะต้องกรอกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ และข้อมูลจะถูกตรวจสอบกับสถานทูตของประเทศต้นทาง เพื่อพิจารณาว่าเป็นบุคคลเฝ้าระวังหรือขึ้นบัญชีดำหรือไม่ จากนั้นจะมีการสแกนและเก็บข้อมูลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศได้ หากมีผู้ใดหลุดรอดจากการคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและติดตามจนสามารถเข้าถึงตัวบุคคลต้องสงสัยได้ในภายหลัง
สำหรับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อการค้าประเวณี ผบ.ตร. ระบุว่าได้มีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ไปยังประเทศต้นทาง เพื่อให้ความรู้และป้องกันไม่ให้พลเมืองของประเทศเหล่านั้นตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะหญิงสาวที่ถูกล่อลวงให้เดินทางเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ย้ำว่าได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่สำคัญ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เข้มงวดในการตรวจสอบ โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว หรือนักเรียน-นักศึกษา เนื่องจากพบว่ามีบางส่วนใช้ช่องทางเหล่านี้ในการแฝงตัวเข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย หรือทำงานในลักษณะนอมินี โดยย้ำว่าการเข้ามาในประเทศไทยต้องมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน หากคิดจะเข้ามาก่อเหตุผิดกฎหมาย จะต้องเผชิญกับมาตรการสกัดกั้นอย่างเข้มข้น
เมื่อถามถึงข้อสังเกตที่ว่า ย่านสุขุมวิท ซอยคาวบอย และย่านนานา กลายเป็นแหล่งค้าประเวณีที่มีชาวต่างชาติเกี่ยวข้องจำนวนมาก ผบ.ตร. เปิดเผยว่าได้รับรายงานเบื้องต้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง แม้การดำเนินการกับผู้ที่ลักลอบค้าประเวณีจะทำได้ยาก เนื่องจากมักอ้างว่าเป็นการสมยอมและไม่ได้มีการซื้อขาย แต่ตนได้กำชับให้ บช.น. และ บช.ก. (กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) ใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนนำหน้า เมื่อมีข้อมูลชัดเจน จึงดำเนินการจับกุมทันที