วันนี้ (30 พฤษภาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงแนวทางการบริหารจัดการกองบินตำรวจ เพื่อสร้างความโปร่งใสและความมั่นใจให้กับนักบิน โดยเฉพาะประเด็นงบประมาณการซ่อมบำรุงอากาศยาน 950 ล้านบาท พร้อมทั้งกล่าวถึงความคืบหน้าในการรับมือสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กองบินตำรวจเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องดำเนินการ 2 ประเด็นหลักคือ สร้างความโปร่งใสให้สังคม และสร้างความมั่นใจให้กับนักบิน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยจะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังเพื่อความโปร่งใสและสุจริต
ผบ.ตร. ลงพื้นที่กองบินตำรวจเพื่อวางแนวทางการบริหารอากาศยาน การบริหารนักบิน และการซ่อมบำรุงต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนกรณีเครื่องบินตำรวจที่สามารถใช้งานได้นั้น คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 1 สัปดาห์ โดยจะให้นักบินมีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักบิน และคาดว่าในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้ จะสามารถเริ่มภารกิจที่จำเป็นได้
สำหรับประเด็นที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับงบประมาณในการซ่อมบำรุงอากาศยานปีละ 950 ล้านบาท พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ชี้แจงว่า ในปีนี้ยังไม่มีการใช้งบประมาณดังกล่าว โดยจะมีการวางแนวทางการบริหารจัดการใหม่ เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เน้นการซ่อมบำรุงอากาศยานให้มีคุณภาพสูงสุด และคุ้มค่ากับงบประมาณมากที่สุด พร้อมยืนยันว่าจะมีการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อให้เกิดความโปร่งใสอย่างแท้จริง
เมื่อถามถึงแนวทางการรับมือสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมักตกเป็นเป้าหมาย ผบ.ตร. ระบุว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง ซึ่งผู้ที่ตกเป็นเป้าไม่ได้มีแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาสาสมัคร สามเณร และชาวบ้านทั่วไป โดยเน้นย้ำว่าทุกคนรู้สึกไม่สบายใจและมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า การก่อเหตุส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณแนวชายป่า ซึ่งผู้ก่อความไม่สงบสามารถก่อเหตุและหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการยกระดับการปฏิบัติการจึงต้องอาศัยความร่วมมือระหว่าง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมและกำชับให้ฝ่ายความมั่นคงทำงานประสานกันอย่างเต็มที่ เพื่อลดขีดจำกัดในการก่อเหตุ ขณะเดียวกัน ก็เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังภายใน และให้ความรู้เกี่ยวกับการระวังตนเอง โดยเน้นย้ำว่าต้องไม่ประมาท
สำหรับความคืบหน้าการติดตามผู้ก่อเหตุ ผบ.ตร. เปิดเผยว่าได้ดำเนินการสืบสวนทั้งเรื่องยานพาหนะและบุคคล โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ ซึ่งได้เห็นความคืบหน้าในการปฏิบัติการเชิงรุกหลายวิธีจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (29 พฤษภาคม) และเชื่อว่าวันข้างหน้าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง