วันนี้ (24 กรกฎาคม) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ออกคำสั่งด่วนถึงหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยกระดับมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงความมั่นคงของราชอาณาจักร
โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. เป็นผู้กำกับดูแลการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่
คำสั่งดังกล่าวเน้นย้ำให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ และระบบการสื่อสารให้พร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับการสั่งการ นอกจากนี้ ยังให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราดูแลทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อาจมีการอพยพ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุอาชญากรรม
ผบ.ตร. ยังได้สั่งการให้เพิ่มจุดตรวจ จุดสกัด และจุดตั้งด่าน เพื่อสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนอาวุธ หรือการแทรกซึมด้านการข่าว พร้อมเตรียมความพร้อมด้านการสอบสวนดำเนินคดี โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2, ตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจตระเวนชายแดน
นอกจากนี้ ยังให้ติดตามเฝ้าระวัง สืบสวนหาข่าวที่เกี่ยวข้อง และประสานการปฏิบัติงานกับทุกภาคส่วน พร้อมเป็นหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอหรือสั่งการ
ในด้านการแพทย์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้โรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลในสังกัดเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการปฏิบัติงานทางการแพทย์อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ ได้เชิญชวนข้าราชการตำรวจและประชาชนร่วมบริจาคโลหิต เพื่อสำรองไว้ใช้ในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
เพื่อให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองสารนิเทศ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงการระมัดระวังข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและสร้างความตื่นตระหนกในสังคม
