วันนี้ (14 พฤศจิกายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ถึง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.), ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.), ผู้บัญชาการสำนักงบประมาณ (สงป.) และผู้บัญชาการสำนักงานตรวจสอบภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตส.)
ใจความว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบนโยบายบริหารราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ปรับการบริหารงานบุคคลและงบประมาณใหม่ โดยใช้ผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินด้านต่างๆ มาเป็นหลักประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง พร้อมทั้งการทำงานจะต้องมีงบประมาณรองรับอย่างเพียงพอ เหมาะสมทุกด้าน และต้องรู้กลยุทธ์ทางงบประมาณ บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตร. ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในรายการค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเบี้ยเลี้ยง ที่พัก และพาหนะ ซึ่ง ตร. ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานและมีประสิทธิภาพสูงสุด และค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ โดยคำนึงถึงข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย (รองผู้กำกับการ-ผู้บังคับหมู่) ในลำดับแรกก่อน
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานในการบังคับใช้กฎหมาย อำนวยความยุติธรรม และบริการประชาชน มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงกำชับการปฏิบัติในการใช้จ่ายงบประมาณ ดังนี้
- รายการค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เบิกจ่ายภายในกรอบวงเงินที่ได้รับการจัดสรร ตามความจำเป็นต่อการปฏิบัติงาน โดยมีหลักเกณฑ์การจัดสรร ดังนี้
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2568
-
-
- รถยนต์สนาม อัตราค่าใช้จ่าย 6,000 บาทต่อเดือน
- จักรยานยนต์สนาม อัตราค่าใช้จ่าย 2,600 บาทต่อเดือน
- รถยนต์ธุรการ อัตราค่าใช้จ่าย 2,500 บาทต่อเดือน
- จักรยานยนต์ธุรการ อัตราค่าใช้จ่าย 1,200 บาทต่อเดือน
-
- รายการค่าเบี้ยเลี้ยงฯ และค่าตอบแทนการปฏิบัติงานฯ ระดับรองผู้กำกับการ-ผู้บังคับหมู่ ที่ปฏิบัติงานให้เบิกจ่ายไม่น้อยกว่าหลักเกณฑ์การจัดสรร ต้องให้ความสำคัญกับภารกิจเสี่ยงภัยในสายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสายงานสืบสวนก่อนเป็นลำดับแรก และให้เบิกจ่ายให้ถึงผู้ปฏิบัติโดยตรง อย่าให้เกิดการร้องเรียนว่าไม่ได้รับเงินอย่างเด็ดขาด มีหลักเกณฑ์การจัดสรร ดังนี้
ค่าเบี้ยเลี้ยงฯ/ค่าตอบแทนการปฏิบัติงาน ปี 2568
-
-
- รอง ผกก.- สารวัตร (สว.) 1,000 บาทต่อเดือน
- รอง สว.-ผบ.หมู่ 800 บาทต่อเดือน
-
- กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และ บช.สอท. ดำเนินการ ดังนี้
3.1 ให้ทุกหน่วยที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจัดทำแผนและผลการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในรายการ ข้อ 1-2 ส่งให้ ภูธรจังหวัด/กองบังคับการ ตามแบบฟอร์มที่ สงป. กำหนด ในรูปแบบ Excel Online สำหรับให้ ตร. วางแผนในการจัดสรรการใช้จ่ายงบประมาณไตรมาส 3-4 และรองรับการตรวจสอบจาก สตส. ต่อไป
3.2 ให้กองบัญชาการ และกองบังคับการ ควบคุม กำกับ สุ่มตรวจการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานฯ ของหน่วยในสังกัด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดสรร ตามข้อ 1-2 และเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบการเบิกจ่ายของทางราชการโดยเคร่งครัด
- ให้ สตส. กำหนดแผนการตรวจราชการ ตรวจสอบหลักฐานการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดข้างต้น และสุ่มตรวจเอกสารการเบิกจ่ายรายการค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานฯ ระดับ รอง ผกก.-ผบ.หมู่ ให้ถึงผู้ปฏิบัติโดยตรง กับข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างจริงจัง รวมถึงสืบสวนสอบสวนในทางลับ หากได้รับต่ำกว่าเกณฑ์การจัดสรรให้รายงานให้ ตร. ทราบ พร้อมหลักฐานประกอบ และสำเนาให้ สงป. ทราบ เพื่อเป็นข้อมูลการดำเนินการอีกทางหนึ่งด้วย
- ให้ สงป. ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำชับดังกล่าวข้างต้น
- ช่องทางในการร้องเรียน กรณีผู้ปฏิบัติงานได้รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานฯ หรือค่าน้ำมันเชื้อเพลิง น้อยกว่าเกณฑ์การจัดสรร ผ่านแอปพลิเคชันแทนใจ