×

ตำรวจไซเบอร์สอบปากคำกลุ่มคนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมืองปอยเปต บางส่วนให้การเป็นประโยชน์ แจงวิธี-ระบบหลอกคนไทยด้วยกัน

โดย THE STANDARD TEAM
03.03.2025
  • LOADING...

ความคืบหน้ากรณีที่ทางการไทยรับตัว 119 คนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองปอยเปต จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ประเทศกัมพูชา กลับมาประเทศไทย โดยแยกเป็น 112 คน เข้าสู่กระบวนการคัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ที่สโมสรค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และอีก 7 คนถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับและสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) คลองลึก 

 

วันนี้ (3 มีนาคม) พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ในฐานะคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่เดินทางมาร่วมติดตามการสอบสวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการ NRM และสอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับด้วยตนเอง ระบุว่า 119 คนไทยที่ถูกส่งกลับมามีหมายจับ 7 คน และในจำนวนนี้ก็มีคนที่ถูกแจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ 10 คน

 

จากการสอบปากคำกลุ่มที่มีหมายจับและบุคคลที่ถูกแจ้งความออนไลน์ได้ให้การเป็นประโยชน์ว่า สมัครใจข้ามไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เมื่อทำงานไปสักระยะรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ไม่มีการถูกทำร้าย มีบุคคลหนึ่งที่ให้การเป็นประโยชน์ ระบุว่า ต้องการไปสมัครงานเป็นแอดมินเว็บไซต์พนัน แต่เมื่อไปถึงจึงรู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

 

พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า บุคคลนี้ถูกให้ทำหน้าที่ในการหลอกลวงเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ใช้ระบบ AI ดึงข้อมูลเหยื่อ (กลุ่มข้าราชการบำนาญ) สุ่มโทรไปหลอก โดยใช้วิธีหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์ระยะไกล เมื่อเหยื่อติดตั้งแล้วมิจฉาชีพจะสามารถควบคุมทุกระบบในโทรศัพท์ได้ ทั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะให้เงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท และจะได้เงินเพิ่มตามเปอร์เซ็นต์ที่หลอกลวงสำเร็จ

 

สำหรับการตรวจพิสูจน์โทรศัพท์มือถือของ 119 คนไทย พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือทุกคนมีโทรศัพท์ใช้ ตอนที่แต่ละคนไปอยู่ปอยเปตมีการเปลี่ยนซิมให้สามารถโทรกลับมาที่ประเทศไทยได้ ตำรวจมีข้อมูลว่าหลายคนในกลุ่มมีการโทรกลับมาและโอนเงินกลับมาให้กับครอบครัวที่ประเทศไทยใช้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising