วันนี้ (10 พฤศจิกายน) เมื่อเวลา 10.40 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทหารเหยียบกับระเบิด จนได้รับบาดเจ็บในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดศรีสะเกษว่า ตนรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และชัดเจนว่าตนเห็นด้วยและสนับสนุนการดำเนินการของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพในเรื่องนี้ สิ่งที่เรากำลังดำเนินการมาโดยตลอด ณ ตอนนี้ก็ต้องถือว่าหยุด จนกว่าจะมีความชัดเจน
ตอนนี้ตนแจ้งไปยังกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศว่า ต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยต้องการเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การเป็นปฏิปักษ์ที่เราคิดว่าจะลดลงไปต่อความมั่นคงของชาตินั้นไม่ได้ลดลง เมื่อไม่ได้ลดเราก็ดำเนินการอะไรที่นอกเหนือจากนี้ไม่ได้ โดยหลังจากนี้ทุกอย่างต้องหยุด
“สำหรับรายละเอียดอื่นๆ จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน โดยสิ่งที่ผมได้ยืนยันไปแล้วนั้น คือ ให้ท่านว่าไปเลย ผมอยู่กับท่าน ผมตามท่านทุกอย่าง” อนุทินกล่าว
ด้าน สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลยอมรับไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสนับสนุนในการดำเนินการทุกอย่างแก่กองทัพและการดำเนินการตามข้อตกลง Joint declaration ส่วนการดำเนินมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ให้หยุดไปก่อน ดังนั้นการปล่อยเชลยศึกในวันที่ 12 พฤศจิกายน เรื่องนี้ก็ต้องหยุดไปก่อนเช่นกัน
ขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจว่ารัฐบาลไม่มีการอ่อนข้อ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับประเทศกัมพูชา และยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง คือให้ประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ความเป็นปฏิปักษ์ไม่ได้ลดลง การดำเนินการใดๆ ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องหยุดชะงักและต้องมาเคลียร์เรื่องนี้ก่อน
เมื่อถามว่า จะหยุดการดำเนินการตามข้อตกลง Joint declaration แบบไม่มีกำหนดหรือไม่ สิริพงศ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการพูดคุย แต่จะบอกว่าไม่มีกำหนดก็กว้างเกินไป หลังจากนี้เมื่อมีการประท้วงกันแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะต้องมีการดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งตอนนี้ต้องหยุดไปก่อน จนกว่าจะมีการเคลียร์เรื่องการเหยียบทุ่นระเบิด
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่ากัมพูชาไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงและเป็นการเล่นนอกเกมใช่หรือไม่ สิริพงศ์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้ไปฟังรายละเอียดจากฝ่ายความมั่นคง แต่นี่คือท่าทีของรัฐบาล
ส่วนต้องมีการชี้แจงเรื่องนี้ต่อนานาชาติหรือไม่ สิริพงศ์ยืนยันว่า ปกติกลไกในการประท้วงก็ต้องมีการอยู่แล้ว ต้องแจ้งกลุ่มผู้สังเกตการณ์ที่เป็นต่างชาติอยู่แล้ว
ขณะที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า วันนี้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนประสบเหตุขาขาด ซึ่งตนต้องขอแสดงความเสียใจต่อทหารที่ประสบเหตุ
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 คาดว่า จะเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เพราะถือเป็นการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เคารพต่อผลการลงนามในปฏิญญา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ฉะนั้นตนจึงได้ขออนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ให้หยุดการปฏิบัติตามปฏิญญาดังกล่าวไว้ก่อน
พล.อ. ณัฐพลยังกล่าวด้วยว่า หนังสือประท้วงก็ได้ทำตามลำดับแล้วไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และจะมีการตรวจสอบอีกต่อไป แต่ถ้ามีพบว่า เป็นท่าทีที่รุกล้ำอธิปไตยก็จะต้องมีการปฏิบัติมากกว่านี้
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้องทำหนังสือไปยังคณะผู้สังเกตการณ์ และผู้สังเกตการณ์จากประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยหรือไม่ พล.อ. ณัฐพล ยืนยันว่า ทำแน่นอน ซึ่งขณะนี้คณะผู้สังเกตการณ์หรือ AOT ก็อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตนขอยืนยันว่า ขอหยุดการปฏิบัติการลงนามตามปฏิญญาดังกล่าวไว้ก่อน ที่นายกรัฐมนตรีไทยไปลงนามกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า การตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ หรือการรุกล้ำอธิปไตย ที่บอกว่า จะทำมากกว่าประท้วงคืออะไร พล.อ. ณัฐพล บอกว่า จะให้ตอบก่อนได้อย่างไร


