วันนี้ (2 มิถุนายน) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและได้รับรายงานถึงสัญญาณซึ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานให้ทราบว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2565 เติบโตที่ร้อยละ 0.56 เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ประเมินแนวโน้มผ่านเครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (EWS-IE) พบว่าใน 1-2 เดือนข้างหน้าภาคอุตสาหกรรมจะยังขยายตัวได้ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการเติบโตของการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทย ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายตามลำดับ ทั้งไทยและต่างประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ทำให้ประชาชนมีการเดินทางและมีการใช้จ่ายมากขึ้น
“นายกรัฐมนตรีพอใจกับสัญญาณของเศรษฐกิจที่ล่าสุดยังชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย ทั้งการผลิตอุตสาหกรรม การส่งอออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร ตลอดจนการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทั้งหมดสะท้อนถึงแนวโน้มการมีงานทำและกำลังการใช้จ่ายของประชาชนที่จะดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลมุ่งดูแลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่องเพื่อเกิดการจ้างงานให้ประชาชนมีรายได้” ไตรศุลีกล่าว
นอกจากนี้ ไตรศุลียังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยเฉพาะในส่วนของการส่งออกนั้น ต้องให้การสนับสนุนในการหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขยายตลาดจากกรณีที่ขณะนี้หลายประเทศได้มีนโยบายปกป้องอาหาร (Food Protection) และงดการส่งออกสินค้าบางรายการ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม ซึ่งการที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสำคัญหลายรายการ จะเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกสามารถขยายตลาดเพิ่มเติมได้