วันนี้ (3 มกราคม) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เริ่มขึ้นเวลา 09.30 น. โดย วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดการประชุม พร้อมแจ้งเวลาอภิปราย 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-5 มกราคม รวม 43 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง
จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลความจำเป็นในการใช้งบประมาณปี 2567 ว่าจะใช้งบประมาณอยู่ที่ 3.48 ล้านล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่าน 6 ยุทธศาสตร์ คือ 1. ด้านความมั่นคง 2. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3. ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4. ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5. ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 6. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
สำหรับรายได้ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ อยู่ที่ 2,787,000 ล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 693,000 ล้านบาท แม้ว่างบประมาณรายจ่ายปีนี้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 11.9 ทำให้สามารถจัดสรรงบไปลงทุนได้กว่า 717,722.2 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4.1 และสามารถชดใช้เงินคงคลัง และชำระคืนต้นเงินกู้ได้กว่า 118,361.1 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเตรียมพร้อมทำให้รัฐบาลมีกรอบในการลงทุนในระยะกลางและยาวมากขึ้นในปีงบประมาณ 2568 อีกด้วย
นอกจากนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้ 564,041.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.2 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ และชดใช้เงินคงคลัง
การบริหารงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินนโยบายทั้งในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว โดยรัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ ใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ด้านสังคม จะใช้งบประมาณสูงที่สุด 834,240.6 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 24 ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด เน้นไปที่การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาส รวมไปถึงเสริมสร้างบุคลากร นอกจากนี้ยังสร้างหลักประกันทางสังคม โดยเฉพาะระบบสาธารณสุข ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้มีสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น
ขณะที่ด้านความมั่นคงใช้งบประมาณ 57,162.1 ล้านบาท ในการพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ และความพร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกมิติ เพื่อให้หน่วยงานด้านการข่าวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนากิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่อาจนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจใหม่ภายในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อรัฐสภามีจำนวน 45 หน้า ใช้เวลาในการชี้แจง 1 ชั่วโมง 45 นาที
อ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ฉบับเต็มได้ที่: https://web.parliament.go.th/assets/portals/1/fileups/350/files/ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ%20พ_ศ_%202567.pdf