วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการเข้าร่วมประชุมและเดินทางมายังรัฐสภาตั้งแต่การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวว่า ทราบข่าวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่การเดินทางเข้าสภาในวันนี้ได้วางแผนไว้แล้วตั้งแต่ช่วงปีใหม่ว่าจะเดินทางเข้าวันไหน ซึ่งบังเอิญตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเอง
ที่ผ่านมามีภารกิจแต่ก็หาเวลาว่างเพื่อที่จะเข้าสภา ดังนั้นวันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี และไม่เกินความคาดหมายที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายมาที่ตนเอง ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน ซึ่งในการรับประทานอาหารค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาล เคยพูดคุยกันแล้วว่าอาจจะเป็นแบบนี้
พร้อมตอบทุกคำถาม
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติในหัวข้อไม่ซื่อสัตย์สุจริตนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนเองจะตอบได้ทุกข้อ แต่ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงไหนก็จะให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงนั้นเป็นคนตอบ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน แต่ยืนยันว่า ตนเองพร้อมตอบอยู่แล้ว และไม่กังวลใดๆ ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ทุกอย่างต้องยึดหลักกฎหมาย ก่อนย้ำว่า พร้อมที่จะตอบ
ส่วนญัตติของฝ่ายค้านรุนแรงหรือไม่ที่กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำ ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย และต่างชาติไม่เชื่อมั่น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องดูข้อมูลว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นอย่างไร ส่วนตัวเข้าใจเพราะตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา เคยเป็นฝ่ายค้านมาร่วมกัน ดังนั้นจะตอบข้อสงสัยและจะตอบทุกข้อกล่าวหา พร้อมยอมรับว่า จะตั้งองครักษ์ขึ้นมาช่วยดูเรื่องการอภิปราย เพราะหากตอบคนเดียวอาจจะชี้แจงจนคอแห้ง เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกกระทรวงอยากตอบ เพราะเป็นผลงานของแต่ละคน
พรรคร่วมไม่ลอยแพ
ส่วนเรื่องอื่นก็จะดูที่หน้างานไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ในหน้างานอาจจะมีหลายรูปแบบที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ปล่อยลอยแพตนเอง ซึ่งได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือกับทุกคนแล้ว ว่าเป็นมือใหม่ยังไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน ดังนั้นทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุน ถือเป็นกำลังใจ แม้จะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ก็ได้รับการสนับสนุนและได้รับความอบอุ่นจากหัวหน้าพรรคทุกคน ถือเป็นกำลังใจอย่างมาก
ขณะที่ทักษิณคงไม่ใช่องครักษ์ตอบคำถามในสภา แต่จะตอบคำถามเมื่อตนเอง สอบถามขอคำปรึกษาแนวทางการทำงาน ซึ่งให้อยู่แล้ว 100% แต่หลังฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ยืนยันว่าขอคำแนะนำจากทักษิณ ถือเป็นเรื่องธรรมดา และจะขอกำลังใจจากทักษิณอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทักษิณและนายกรัฐมนตรีจะไปรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันที่บ้านพิษณุโลก
ย้ำยึดหลักกฎหมาย-สิทธิมนุษยชนหลังพบย้ายชาวอุยกูร์
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงกรณีพบรถตำรวจมีความผิดปกติ อาจมีการย้ายชาวอุยกูร์ และพบเที่ยวบินจีนออกจากสนามบินดอนเมืองว่า ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด แต่ว่าเรื่องแบบนี้ถ้าประเทศใดก็ตามจะทำอะไรต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดกระบวนการระหว่างประเทศ และยึดเรื่องสิทธิมนุษยชน
