วันนี้ (26 พฤศจิกายน) รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีเตรียมแถลงเรื่องหนี้นอกระบบในวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ ส่วนหนี้ในระบบจะแถลงอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคมนี้
รัดเกล้ากล่าวอีกว่า หากนายกรัฐมนตรีได้แถลงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ และบูรณาการการทำงานร่วมกัน เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนจะเกิดผลสำเร็จโดยเร็ว โดยนอกจากกระทรวงการคลังที่ได้ดำเนินการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเต็มที่ เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้ว ยังมีการบูรณาการหลายหน่วยงาน เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทยเปิดรับลงทะเบียนช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป
“นายกฯ ย้ำเสมอว่า รัฐบาลนี้ทำงานอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา และเข้าใจความลำบากของพี่น้องประชาชนในการลดค่าใช้จ่าย ตนเองจึงมั่นใจว่าการแก้ไขปัญหานี้จะเกิดขึ้นโดยเร็ว อีกทั้งจากการได้ลงพื้นที่สอบถามประชาชนก็เห็นด้วยและสนับสนุนการแก้หนี้ทั้งระบบ ประชาชนจะได้ไม่ต้องไปจ่ายดอกเบี้ยที่แพงเกิน และทำให้อยู่ดีกินดี ” รัดเกล้ากล่าว
แก้หนี้นอกระบบ นโยบายรัฐบาลเศรษฐา
การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ก่อนหน้านี้ได้มีการลงนามในคำสั่งที่ 316/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์หนี้สินที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้หนี้สินของประชาชนรายย่อยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบ และเป็นธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยรวมทั้งสิ้น 26 คน โดยมี กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ และมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธานกรรมการ