วันนี้ (1 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้มีการประชุมหลายเรื่องที่มีความก้าวหน้า เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อประชาชนประเทศไทยและสังคม ในการทำงานบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลหลายเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้นปัญหาอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องก็ขอให้ลดกันไปเสียบ้าง ขอร้องแค่นั้น
ขณะที่การหารือในประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมการมาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น วันนี้สิ่งที่ควรพูดคุยกันคือจะทำอย่างไรให้สงครามหรือความรุนแรงนั้นยุติลงให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบกับคนทั้งโลกในหลายมิติ วันนี้ต้องเดินหน้าอย่างระมัดระวัง ใช้กลไกการต่างประเทศ กลไกอาเซียนในการดำเนินการ
ส่วนที่หลายประเทศต้องการให้ไทยแสดงจุดยืนนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วว่าเป็นเรื่องของอาเซียน เป็นเรื่องของภูมิภาค ต้องรักษาสมดุลตรงนี้เอาไว้ให้ได้เท่านั้นเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นห่วงเป็นใยในชีวิตของคนทุกประเทศให้ปลอดภัย และสิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้คนไทยนั้นปลอดภัย และสนับสนุนในเรื่องกระบวนการสันติภาพให้เสร็จสิ้นได้เร็ว เพราะไม่มีอะไรดีกับใครทั้งนั้น
ส่วนหากสถานการณ์เกิดความเลวร้ายมากขึ้น จะต้องมีการเตรียมการรองรับเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ที่อยู่ในห่วงโซ่เดียวกัน ได้เตรียมมาตรการนี้ไปแล้ว และเมื่อวาน (28 กุมภาพันธ์) ได้มีการเรียกรองนายกรัฐมนตรีประชุมโดยเร่งด่วน เพื่อให้มีการเตรียมมาตรการตามวิกฤตการณ์สมมติฐานที่วางไว้ใน 3 ระดับ และขณะนี้อยู่ในขั้นที่ 1
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการรายงานปัญหาราคาไข่แพง ต่อที่ประชุม ครม. หรือไม่นั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ได้มีการรายงานแล้ว ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องของอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ซึ่งจะต้องดูว่าจะสามารถทำได้อย่างไร หากพูดว่าอย่างนั้นแพงอย่างนี้แพงต้องไปดูสาเหตุว่ามาจากไหน และจะสามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร ขออย่างเดียวอย่าเพิ่งฉวยโอกาสอะไรในตอนนี้ให้มากกันนักเลย ตนเข้าใจว่าอะไรที่สามารถดูแลได้ก็จะดูแลให้ อะไรที่เป็นไปตามกลไกตลาดก็อีกเรื่องหนึ่ง รัฐบาลพยายามหามาตรการเข้าไปดูแลช่วยเหลือให้ได้ทุกอย่าง หลายอย่างเดือดร้อนกันไปหมด สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจและความร่วมมือกัน ตนก็ขอร้องไปยังภาคเอกชนด้วย ตนก็ห่วงเรื่องราคาสินค้าที่จะแพงขึ้น แม้ว่าจะไม่มีสถานการณ์ยูเครนรัสเซียก็ตาม จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวทางการตรึงราคาน้ำมันเบนซินหรือไม่นั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการและอยู่ระหว่างการหารือ วันนี้ต้องดูว่าที่ผ่านมาพยายามเสนอให้รัฐบาลลดโน่นลดนี่ ลดภาษีสรรพสามิต แล้วก็กลับมาบอกว่าเมื่อไม่มีภาษีสรรพสามิตแล้วจะมาทำอย่างไร ตนก็ทำมาตลอด มีการลดกันไปเป็นระดับ ลดไปแล้ว ลดเพื่อความเดือดร้อนของประชาชนไม่ใช่หรือ ซึ่งก็ต้องไปดูว่าเบนซินนั้นจะดูแลอย่างไร อาจเป็นกลุ่มอาชีพได้หรือไม่ ถ้าทั้งหมดไปกันหมดก็พังกันหมด รัฐบาลก็ไม่มีเงินจะไปอุดหนุนอะไรได้ทั้งหมด ขอให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง ขอสื่อมวลชนอย่านำเสนอย้อนแย้ง วันนี้ขอมาอย่างนี้ วันพรุ่งนี้อะไรที่ทำไปก็กลับมาเล่นรัฐบาลอีก เพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไร ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลย
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้พิจารณาเรื่องของภาษีโฆษณา ภาษีท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะทำงานและฝ่ายกฎหมายก็มีอยู่ อะไรทำได้ก็ทำ ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่ารู้รายละเอียดอะไรหรือไม่ที่เขาทำ หากพูดเฉพาะหลักการทุกอย่างก็ได้ทั้งหมด ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ ถ้าทำได้ก็ทำให้ทั้งหมด รัฐบาลมาเพื่อแก้ไขปัญหา อุปสรรคเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่มีประเทศไหนไม่มีปัญหา ก็มีทุกประเทศ
ส่วนปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า ขอให้ร้องเรียนมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล หากร้องมาทางสื่อ ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตรงไหนอย่างไร ถามตนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน เพราะในพื้นที่มีศูนย์ในการดำเนินการ บูรณาการอยู่แล้ว พลเรือน ตำรวจ ทหาร กระทรวงมหาดไทย ก็ลงพื้นที่ไปทั้งหมดแล้ว ก็ไปร้องตรงนู้นว่าใครยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ตนก็ได้รับรายงานทุกวัน ตนคิดว่าตนศึกษารายละเอียดมากพอสมควร และมีการรายงานโดยตรงมายังตนว่ามีการช่วยเหลือมาอย่างไร มีน้ำท่วมตรงไหน มีการเพิ่มระดับหรือลดระดับอย่างไร การดูแลต่างๆ ก็ต้องค่อยๆ แก้กันไป การซ่อมบ้านเรือนหรือเยียวยาก็ว่ากันอีกที ถ้าทุกคนร้องกันตามสื่อไปหมด ตนคงตามแก้ให้ไม่ไหว ขอให้ไปเข้าตามช่องทาง และหากสื่อรู้ว่าใครยังไม่ได้รับการแก้ไขก็ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรอรับเรื่องร้องทุกข์อยู่
ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ยังปฏิเสธการตอบคำถามหลัง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ออกมาระบุว่าจะไม่รับตำแหน่งใน ครม. โดย พล.อ. ประยุทธ์ได้ตอบกลับมาสั้นๆ ว่า ใครจะปรับหรือ ไม่ปรับอะไรทั้งนั้น และเมื่อสื่อมวลชนถามย้ำว่า หาก ร.อ. ธรรมนัสตอบมาเช่นนั้นมีความสบายใจเลยใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ตอบ