×

นายกฯ หนุนไทยยกระดับเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รักษาความเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย ตั้งเป้าผลิตรถ EV 7.25 แสนคันต่อปี ภายในปี 2030

20.12.2021
  • LOADING...
รถยนต์ไฟฟ้า

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมก้าวหน้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล เพื่อรักษาจุดขายเรื่องความเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia) ของประเทศ 

 

ทั้งนี้ ไทยตั้งเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า Zero Emission Vehicles หรือ ZEV จำนวน 725,000 คันต่อปี หรือ 30% ของการผลิตรถยนต์ภายในปี 2030 โดยได้มีนโยบายในการดึงดูดและเอื้อต่อการลงทุนที่หลากหลาย เช่น การ สนับสนุนการลงทุนในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และการสนับสนุนให้เกิดธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น สถานีชาร์จ ธุรกิจซ่อมบำรุง และธุรกิจซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชันอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกด้วย

 

“รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญ และได้กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ไทยยังคงความเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia) เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างรายได้เข้าประเทศในอนาคต คาดการณ์ว่าในปี 2030 ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะสูงถึง 25 ล้านคัน โดยตลาดที่ขยายตัวชัดเจนและจะเป็นโอกาสของไทยคือ จีน ยุโรป สหรัฐฯ และอินเดีย” ธนกรกล่าว

 

ธนกรกล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย คิดเป็นประมาณ 5.9% ของ GDP หรือประมาณ 11% ของ GDP ภาคอุตสาหกรรมในปี 2020 ไทยมีการผลิตรถยนต์รวม 1.4 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 11 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกรวม 9.19 แสนล้านบาท และยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

โดยในปี 2021 มีการผลิตรวมราว 1.6 ล้านคัน ขยายตัว 15% และปี 2022 คาดว่าการผลิตจะขยายตัวอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน โดยโครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ประกอบด้วยผู้ผลิตรถยนต์ 19 ราย ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 10 ราย ผู้ผลิตชิ้นส่วนมากกว่า 2,300 ราย รวมแรงงานในภาคอุตสาหกรรม 750,000 คน

 

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท ยกระดับกระบวนการผลิตในโรงงานด้วยเทคโนโลยีและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ล้ำสมัย ถือเป็นการลงทุนในประเทศไทยครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยมูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท

         

ขณะเดียวกัน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ก็เริ่มลงทุนเดินหน้าผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรที่ทันสมัย ซึ่งมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเป็นโรงงานแบตเตอรี่แห่งแรกที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมยังเตรียมขยายกำลังการผลิตสู่ 50 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีตามแผนในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดอาเซียนด้วย

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X