วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกถ้อยแถลงเรื่องการเป็นเจ้าภาพประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ระหว่างปี 2023-2024 โดยระบุว่า ปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิภาคของเราตั้งเป้าหมายจะฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดอย่างยั่งยืนและครอบคลุม โดยในสัปดาห์หน้าผู้แทนของเขตเศรษฐกิจ APEC จะเริ่มต้นการหารือรอบแรกของปีเพื่อวางแผนงานสําหรับปีนี้ และผลักดันการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการอาโอทีอาโรอา ซึ่งได้รับความเห็นชอบเมื่อปีที่แล้ว เพื่อการบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ปุตราจายา ปี 2040 โดยวิสัยทัศน์นี้จะกําหนดแนวทางการดำเนินงานของ APEC ในอีก 20 ปีข้างหน้า
หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพ APEC ปี 2022 คือ ‘เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล’ โดยประเด็นสำคัญคือการทำให้ APEC เปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ และสร้างสมดุลในทุกด้าน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความไม่สมดุลที่เห็นเด่นชัดขึ้นจากวิกฤตโรคระบาด และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นโมเดลที่บูรณาการแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ข้อเข้าด้วยกันมาใช้ประโยชน์
ภารกิจของ APEC เป็นงานระยะยาวที่ต้องการความร่วมมือและความพยายามอย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นของสมาชิก APEC ที่มีต่อการพัฒนาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะถูกสานต่อโดยเจ้าภาพ APEC ในปีต่อๆ ไป โดยผมมีความยินดีที่จะประกาศว่า สหรัฐอเมริกาจะเป็นเจ้าภาพ APEC ในปี 2023 และเปรูจะเป็นเจ้าภาพ APEC ในปี 2024 ด้วยความร่วมมือกัน พวกเราจะเติมเต็มเป้าหมายร่วมในการสร้างประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลวัต พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีสันติภาพ เพื่อประชาชนของเราทุกคนและคนรุ่นหลัง
“ผมรอที่จะต้อนรับผู้นำ APEC ทุกท่านสู่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งทุกท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดเป้าหมายที่สำคัญสำหรับภูมิภาคของพวกเราร่วมกัน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ การออกถ้อยแถลงย้ำถึงความพร้อมต้อนรับผู้นำ APEC ของ พล.อ. ประยุทธ์เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวการยุบสภา ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่กำลังคุกรุ่นในขณะนี้ ที่จะส่งผลให้รัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบเทอม