วันนี้ (28 มีนาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าการประชุมในวันนี้ทุกส่วนได้บูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านจราจร ซึ่งติดขัดในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจึงเร่งสั่งการให้คลี่คลายการจราจรในจุดต่างๆ เป็นผลมาจากรถไฟฟ้าหยุดให้บริการและรถโดยสารสาธารณะไม่เพียงพอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงสนับสนุนยานพาหนะมาช่วยเสริม ขณะที่ กทม. สั่งให้ผู้อำนวยการเขตขอความร่วมมือจากวินจักรยานยนต์ในทุกเขต รวมถึงบริษัทเอกชน เช่น Grab ช่วยรับส่งประชาชน โดยเฉพาะจุดอาคารสำนักงานต่างๆ
ในส่วนเรื่องการประเมินสภาพอาคาร ขณะนี้มีผู้ร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue เกือบ 1,000 เรื่องแล้ว ซึ่ง กทม. จัดให้มีเจ้าหน้าที่วิศวกรรมและผู้เชี่ยวชาญมาประจำที่ศูนย์บัญชาการแล้ว 5-6 คน เพื่อช่วยกันประเมินสภาพอาคาร แยกเคสที่หนัก ซึ่งพบว่ามีอาคารได้รับผลกระทบมาก ยังไม่ควรเข้าใช้บริการแล้ว 6 เคส ซึ่งอาจจะต้องส่งวิศวกรเข้าไปประเมินหน้างานอีกครั้งภายในคืนนี้ ซึ่งตนเองได้เซ็นหนังสือขอความร่วมมือระดมวิศวกรทั่วกรุงเทพมหานครที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งจากหน่วยงานราชการและเอกชน มาร่วมงานเพื่อกระจายลงไปยังจุดต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานอื่นที่มีวิศวกรมาร่วมมือด้วยเพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ในขณะเดียวกัน ล่าสุดพบว่ามีประชาชนได้เข้าไปพักที่สวนสาธารณะเป็นการชั่วคราวจำนวนมาก หลัง กทม. ขยายเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว โดยมีรถสุขาจอดให้บริการด้วย ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จราจรน่าจะคลี่คลายได้ภายในคืนนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เรือคลองแสนแสบและเรือด่วนเจ้าพระยา ขยายเวลาให้บริการประชาชนเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าผู้โดยสารจะหมด
ขณะที่ ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม 7 ราย บาดเจ็บอีก 8 ราย ขณะที่เครนล้มบริเวณแยกบางโพมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำนวน 8 ราย