วันนี้ (6 พฤศจิกายน) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า เรื่องดังกล่าวมีเอกสารสั่งการให้ศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ในการที่จะดูในเรื่องของเงินเดือน ซึ่งกระทรวงแรงงานกำลังพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำอยู่ ซึ่งถ้าจะยกระดับก็ต้องดูทั้งหมดในทุกภาคส่วน โดยได้มอบให้คณะทำงานศึกษาและมารายงานกลับภายในสิ้นเดือนนี้ว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากการศึกษาความเป็นไปได้ในการขึ้นค่าแรง หลังศึกษาแล้วจะมีกรอบหรือไม่จะขึ้นค่าแรงภายในปีงบประมาณใด เศรษฐากล่าวว่า ต้องมานั่งดูอีกที ถึงได้บอกว่าต้องมีการศึกษาเกิดขึ้น ซึ่งที่เคยพูดไปแล้วว่าเงินเดือนของข้าราชการและค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ขึ้นมานานแล้ว เพราะปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะสอดรับในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นนโยบายของรัฐบาลด้วยหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า หลักการถือว่าสอดคล้อง แต่จำนวนเงิน เปอร์เซ็นต์ที่ขึ้นต้องว่ากันไปแต่ละภาคส่วน ส่วนที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่าอาจไม่ได้ 400 บาทในทุกพื้นที่นั้น เดี๋ยวต้องมาฟังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอีกครั้งหนึ่ง ถึงได้บอกว่าต้องมีการศึกษาอีกครั้งทั้งหมด
ขณะเดียวกันเศรษฐายังกล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือตัวประกันไทยในอิสราเอลว่า เมื่อคืนนี้ (5 พฤศจิกายน) ได้พูดคุยกับ พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ซึ่งได้รับรายงานความคืบหน้าว่ามีภาพถ่ายของตัวประกัน จึงเข้าใจได้ว่าอย่างน้อยที่สุดตัวประกันยังมีชีวิตอยู่ และกำลังพยายามเจรจากันอยู่ ซึ่งขณะนี้กำลังดูว่าช่วงไหนของการรบภาคพื้นดินที่อาจมีการพักบ้าง หากมีการหยุดยิงชั่วคราว อาจเป็นระยะ 1-2 วัน ซึ่งอาจเป็นช่องทางในการลำเลียงตัวประกันออกมาได้ ทั้งนี้ประเทศไทยก็พึ่งทางมาเลเซียค่อนข้างเยอะ
เมื่อถามถึงความคืบหน้า ตัวประกัน 3 คนที่ยังหาตัวไม่พบ และถูกจับเพิ่มอีก 1 คน มีความคืบหน้าหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเข้ามา
