×

นายกฯ ร่วมประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น เชื่อความร่วมมือผลักดันอาเซียนสู่เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ในปี 2573 – แก้ปัญหาความขัดแย้งระดับภูมิภาค

โดย THE STANDARD TEAM
17.12.2023
  • LOADING...
ประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น

วันนี้ (17 ธันวาคม) เวลา 10.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว) ที่โรงแรม The Okura Tokyo กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง 

 

ช่วงที่ 1 Plenary Session ในหัวข้อ Review of ASEAN-Japan relations และ Partners for Peace and Stability & Regional and International Issues 

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองมิตรภาพและความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น ตลอดระยะเวลา 50 ปี แสดงถึงความสำเร็จที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจในการนำสันติภาพ เสถียรภาพ ตลอดจนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาสู่ภูมิภาค

 

สำหรับการกำหนดทิศทางอาเซียน-ญี่ปุ่นด้วยวิสัยทัศน์และแผนปฏิบัติการใหม่ เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตและความเปราะบางของสันติภาพโลก รวมทั้งความมั่นคงในภูมิภาคที่เกี่ยวโยงกัน จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ และภูมิเทคโนโลยี โดยเสนอประเด็นความร่วมมือในอนาคตเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน 3 ประการ ดังนี้ 

 

ประการแรก การบูรณาการความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ก้าวหน้า ทุกฝ่ายจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) และความตกลง RCEP เพื่อเชื่อมโยงตลาดที่มีศักยภาพ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ความร่วมมือภายใต้กรอบอนุภูมิภาคต่างๆ ซึ่งขณะนี้ไทยกำลังพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ โดยยินดีร่วมมือกับทุกพันธมิตรที่สนใจทั้งภาครัฐและเอกชน

 

ประการที่สอง การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตสีเขียว ไทยยินดีสนับสนุนข้อริเริ่ม Asia Zero Emission เพื่อเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและยุทธศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของอาเซียน รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาดชั้นนำและเป็นศูนย์กลางการผลิต EV และรัฐบาลยังดำเนินการเตรียมออกตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน 

 

ประการที่สาม ความมั่นคงด้านสุขภาพ ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมประเด็นเรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้าในระดับโลก พร้อมหวังว่าจะนำไปสู่ระบบสาธารณสุขที่มีความเท่าเทียมและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

 

ส่วนประเด็นสถานการณ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จำเป็นต้องกระชับความร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อนำไปสู่สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและต่อโลก ทั้งสงครามในยูเครนที่ยังคงไม่สงบ รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ความขัดแย้งเริ่มขยายตัว สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน 

 

ไทยหวังว่าทุกฝ่ายจะยังไม่ยอมแพ้ต่อการสร้างความสงบสุขในเมียนมา ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านพร้อมแสดงบทบาทนำในการช่วยเหลือเมียนมา เพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามฉันทมติ 5 ข้อของอาเซียน 

 

นอกจากนี้ไทยยังได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตลอดแนวชายแดน เพื่อให้พลเรือนได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น พร้อมหวังว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการเจรจาจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น ทั้งในเมียนมาเองและในกรอบของอาเซียน และเชื่อมั่นว่าอาเซียนและญี่ปุ่นจะร่วมมือกับไทยในเรื่องดังกล่าว

 

ช่วงที่ 2 การหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ภายใต้หัวข้อ ‘Heart to Heart Partners across Generations’ 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจผ่านการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ทั้งในด้านการศึกษาและวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งการสร้างความร่วมมือระหว่างรุ่นสู่รุ่นที่แท้จริงในอนาคตจะต้องคำนึงถึงค่านิยมและทัศนคติที่แตกต่างกันของคนหนุ่มสาว รวมถึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนด้วย  

 

โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ เป็นโครงการที่ส่งเสริมมิตรภาพและสร้างความประทับใจในญี่ปุ่นให้กับทั้งเยาวชนไทยและอาเซียน รวมถึงแอนิเมชันญี่ปุ่น สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมวัฒนธรรมญี่ปุ่น และปลูกฝังค่านิยมเชิงบวก โดยนายกรัฐมนตรีเติบโตมาพร้อมกับตัวการ์ตูน หน้ากากเสือ และ กาโม่ มนุษย์กายสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรกๆ ของโลกที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่หลายคนในการมุ่งมั่นทำงานเพื่อโลกที่ดีขึ้นและสงบสุข 

 

รัฐบาลไทยตระหนักถึงศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นและอาเซียนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม 

 

นอกจากนี้ยินดีที่ญี่ปุ่นบริจาคเงิน 4 หมื่นล้านเยนสำหรับการวางรากฐานความร่วมมือด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนในอนาคต 

 

ช่วงที่ 3 การหารือภายใต้หัวข้อ Partners for Co-creation and  Economy and Society of the Future 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การร่วมสร้างสรรค์ก่อให้เกิดศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งร่วมกัน และเกิดความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างคู่แข่งได้ ปัจจุบันญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และคาดว่าอาเซียนเองจะมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ในปี 2573 ซึ่งอาเซียนและญี่ปุ่นมีศักยภาพอย่างมากที่จะร่วมสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ 3 ประเด็น ดังนี้ 

 

  • ประการแรก การเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ไทยสนับสนุน ASEAN-Japan Comprehensive Connectivity Initiative เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงทางกายภาพ ดิจิทัล และความรู้ ซึ่งการลงทุนเกือบ 3 ล้านล้านเยนของญี่ปุ่นในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพในอาเซียนถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่น และไทยสนับสนุนให้มีการลงทุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต 

 

  • ประการที่สอง การเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ทั้งสองฝ่ายสามารถได้ประโยชน์จากการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากกัน ไทยจึงขอเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในการพัฒนาระบบนิเวศ EV ในอาเซียน ซึ่งไทยจะสนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานทดแทนและด้านเชื้อเพลิงที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงไฮโดรเจนและแอมโมเนียมากขึ้น และไทยยังส่งเสริมการเงินสีเขียวเพื่อความยั่งยืนอย่างแข็งขัน 

 

ประการที่สาม การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ถือเป็นตัวเปลี่ยนสถานการณ์ในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนที่แท้จริง ปัจจุบันอาเซียนกำลังศึกษากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ที่ถือเป็นกรอบข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลก และคาดว่าอาเซียนจะเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค 2 เท่าเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573

 

ไทยยินดีร่วมมือญี่ปุ่นด้านอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเรื่องการไหลของข้อมูลข้ามพรมแดน การปกป้องข้อมูล และการกำกับดูแล AI เพื่อช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ไทยเชื่อมั่นว่าเหล่านี้จะเป็นกลไกการเติบโตใหม่เพื่อสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติของเราในอนาคต

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising