วันนี้ (4 ตุลาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดและแผนการลงพื้นที่ว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็จำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อร่วมตัดสินใจในหลายเรื่อง ดังเช่นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ตนได้เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ชายแดน
นายกรัฐมนตรีระบุว่าได้มีการแบ่งภารกิจให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการถึง 3 คน ก็ได้แบ่งหน้าที่ให้ไปดูแลเรื่องน้ำท่วม ขณะที่กระทรวงอื่น เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มจังหวัด
อนุทินเน้นย้ำถึงเรื่องการเยียวยาว่า ถ้ามีภัยน้ำท่วมแล้วเข้าข่ายการเยียวยา มีเงินค่าชดเชยความเสียหาย ถ้าเข้าข่ายสามวันเจ็ดวัน เราจะเร่งดำเนินการเยียวยาให้เร็วที่สุด โดยจะนำประสบการณ์จากรัฐบาลชุดที่แล้วที่ตนอยู่กระทรวงมหาดไทย มาใช้เร่งรัดการจ่ายค่าเยียวยา และในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วย เชื่อว่าขั้นตอนต่าง ๆ จะรวดเร็วมากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนบางพื้นที่อยากให้นายกฯ ลงพื้นที่เอง เนื่องจากกังวลว่าการช่วยเหลืออาจยังไม่ทั่วถึง อนุทินกล่าวว่า ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนที่ลงไป รวมถึงผู้บริหารระดับกระทรวง ก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เนื่องจากมีการรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องและมีการวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดภัยน้ำท่วมในระยะยาว
ส่วนกรณีที่ สส. ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯ ลงพื้นที่ในจังหวัดที่ไม่มี สส. พรรคภูมิใจไทยอยู่ อนุทินกล่าวว่า ตนคิดว่าการกล่าวเช่นนั้นเป็นการพูดแบบลอย ๆ เนื่องจากจังหวัดที่ไม่มี สส. ของพรรค เช่น จังหวัดสุโขทัย ก็มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับมอบหมายเข้าไปบริหารสถานการณ์ และได้รับรายงานว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว
พร้อมทั้งระบุว่า จริงๆ ตนจะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่ทันแล้ว เพราะเมื่อวานแรงที่สุด โดยชี้แจงว่าน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่เป็นลักษณะน้ำท่วมขัง แต่เป็นน้ำหลากมาแรง ซึ่งสุดท้ายน้ำจะไหลไปยังแหล่งพักน้ำที่เขื่อนภูมิพลและบึงบอระเพ็ด ซึ่งมีการเตรียมการไว้แล้ว