วันนี้ (28 พฤษภาคม) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาล ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และหอการค้าไทย ดำเนินการโดยศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และโรงพยาบาลบางปะกอก 1 พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้กล่าวให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เสียสละทำงานอย่างเต็มที่ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการสร้างกุศลและความดีให้กับตนเองและประเทศชาติ ย้ำการกระจายวัคซีนเป็นไปตามปริมาณวัคซีนที่เข้ามา และจะกระจายให้เร็วที่สุดให้สอดคล้องกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ยืนยันประชาชนจะได้ฉีดวัคซีนครบทุกคน พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนดูแลตนเองให้ดีที่สุด และปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการให้บริการจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เอเชียทีคฯ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กทม. ที่ต้องบริหารจัดการวัคซีนตามที่ได้รับมอบไปตามที่กำหนด เพราะฉะนั้นการบริหารวัคซีนต้องบริหารให้ทุกคนได้ฉีดให้มากที่สุดในแต่ละเดือน และเพียงพอในเดือนถัดไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจว่าจะฉีดให้ได้ภายในเดือนธันวาคม เราต้องปฏิบัติงานโดยมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าในระดับต่างๆ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นการกระจายวัคซีนจะต้องคำนึงทั้งในเรื่องของจำนวน และสถานที่ให้บริการมากที่สุด
พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันเป้าหมายการบริหารการฉีดวัคซีนจะให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม ประชาชนคนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคนอย่างแน่นอน นอกจากนี้แผนการกระจายวัคซีนในเดือนมิถุนายนนั้น จะกระจายให้มากที่สุด ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ต่างๆ ในบางพื้นที่ที่ต้องควบคุม
พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวว่า วันนี้เป็นการฉีดวันแรก ซึ่งในกรุงเทพฯ ทั้งหมดเตรียมไว้ 25 จุด ซึ่งต้องมีการบริหารวัคซีนที่ได้รับมอบหมายตามสัดส่วน ตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด ด้านการบริหารวัคซีนเราจะบริหารเป็นเดือนๆ เพื่อให้ประชาชนได้ฉีดมากที่สุด ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะฉีดให้ได้ในเดือนธันวาคม ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด แต่มีหลายอย่างต้องปรับเปลี่ยน คงไม่ต้องขอโทษ อย่างการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ทำงานในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ต้องมีความอ่อนตัวในการบริหารบ้าง ไม่ใช่กลับไปกลับมา อันนี้เป็นการทำงานที่มีแนวทางกำหนดไว้ล่วงหน้าว่าสถานการณ์จะระดับ 1-2-3-4 แล้วจะทำอย่างไร
“การบริหารวัคซีน ทั้งการจัดหา สถานที่ จำนวนผู้ฉีด การกระจายวัคซีน ทุกอย่างต้องมีการปรับ แต่ทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนผมยืนยันตรงนี้ เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดว่าคนจนไม่ได้ฉีด ขอความร่วมมือกับสื่อด้วย เรื่องอะไรก็ตามที่ไม่เกิดประโยชน์ขอความกรุณาอย่าไปแพร่ในสื่อทุกชนิด มันจะลดความขัดแย้งลงไปได้เยอะ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยที่จะไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ผมไม่อยากให้ใครทะเลาะกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามเราจะต้องเป็นฝ่ายเดียวกัน คือฝ่ายที่รักประเทศไทย รักคนไทย” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการแจ้งความเอาผิดกับบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ที่อ้างว่าเคยติดต่อกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะดำเนินการต่อไป คงไม่ต้องมาถามล่วงหน้า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแผนการกระจายวัคซีน AstraZeneca ที่จะเข้ามาในเดือนมิถุนายนนี้ยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า วัคซีนทั้งหมดที่จะเข้ามาในเดือนมิถุนายนจะกระจายภายในเดือนมิถุนายนทั้งหมด โดยจะกระจายไปให้ได้มากที่สุด และได้มอบนโยบายไปแล้ว ซึ่งได้บอกไปแล้วว่าเราจำเป็นต้องกระจายวัคซีนเป็นรายเดือน ไม่เช่นนั้นก็ต้องวางแผนไป 6 เดือน แล้วจะได้ตามนั้นหรือไม่ล่ะ เพราะวัคซีนมาเป็นช่วงๆ ในแต่ละเดือน และการกระจายไปตามจุดต่างๆ จึงจำเป็นจะต้องวางแผนตรงนี้ ถ้าไม่มีการแพร่ระบาดขึ้นมาใหม่ก็คงเป็นไปตามแผนได้ แต่ในเมื่อมีการแพร่กระจายและมีการระบาดสูงในบางพื้นที่ จึงจำเป็นต้องมีการปรับในการนำวัคซีนเข้าไปในแต่ละพื้นที่
“ผมยืนยันแล้วกันว่า ทุกคนจะได้รับการฉีดอย่างแน่นอน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวัคซีนทางเลือก เช่น วัคซีน Sinopharm มีความคืบหน้าอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มีบริษัทเข้ามาติดต่อเป็นทางการแล้วกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่ง อย. ขึ้นทะเบียนแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้า โดยต้องเข้าตามช่องทางที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายตามมาตรการ ถ้าไม่เข้าตามช่องก็มาไม่ได้ จะมาพบใครก็ไม่ได้ เพราะตนไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของ อย. และองค์การเภสัชกรรม (อภ.)
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับรายงานกรณีอังกฤษพบโควิด-19 สายพันธุ์ไทยแล้วหรือยัง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า “มันก็มีทุกสายพันธุ์นั่นแหละ ถ้ามันจะเกิด อย่าไปกังวลให้มากนักเลย วันนี้ขอให้ฉีดวัคซีนกันให้ได้เสียก่อน ซึ่งถ้าเป็นก็รักษาได้ ขอให้ดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเอง ถ้าไม่ดูแลตัวเอง ถ้าไม่ช่วยกันทำอะไรก็ไม่สำเร็จ อย่าไปจับผิดเล็กน้อย ถ้าถามมาก็ตอบไปว่ารักษาได้ วัคซีนที่มีอยู่ก็ป้องกันได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าในส่วนของวัคซีนการเมืองที่ยังมีความเห็นต่างกันในพรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผมเข้าใจกันหมดทุกประการ ผมยืนยันตรงนี้ ต่อหน้าอนุทิน เมื่อวานนี้ผมก็คุยกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร จะมีปัญหาก็เพราะมีคนยุแยงตะแคงรั่วอยู่แถวนี้นั่นแหละ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
