วันนี้ (12 มิถุนายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนปัจจุบันจะหมดวาระลงในเดือนกันยายนนี้ รัฐบาลเตรียมคนมานั่งแทนหรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบ ต้องถาม พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ เป็นไปตามกลไกของการแต่งตั้ง
เศรษฐากล่าวถึงกรณีที่มีชื่อของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกิตติรัตน์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามความเข้าใจของตนเอง ถ้าจะมาเป็นตำแหน่งนี้ก็ต้องออกจากทุกตำแหน่งมาในระยะเวลา 1 ปี ส่วนคนที่จะมาเป็นประธานคณะกรรมการ ธปท. จะต้องมีแนวนโยบายเดียวกับรัฐบาลใช่หรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องถามพิชัย
ส่วนตอนนี้เรื่องเศรษฐกิจ คณะทำงานต่างๆ ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า จิตวิญญาณของรัฐบาลนี้เราเป็นหนึ่งเดียวมาโดยตลอดของทุกๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม หรือสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะเห็นได้ว่าเราคุยกันมาโดยตลอด และภาษาที่คุยกันในวงสนทนาตนเชื่อว่าก็เป็นภาษาที่ผู้ใหญ่คุยกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีความคาดหวังว่าจะมีการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้พูดไปแล้ว ความคาดหวังก็ชัดเจน ตนไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าไปก้าวก่ายหรือชี้นำ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาแล้วกัน ซึ่งความต้องการของตนก็ชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นความต้องการที่สะท้อนจากประชาชน
ส่วนหากไม่ได้ลดดอกเบี้ย ตนก็ยังคงเดินหน้าเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว ตนพยายามทำทุกอย่าง หากติดขัดตรงไหนก็พยายามที่จะอ้อมไป ตรงนี้ไปไม่ได้ก็ไปอีกทาง แต่ยึดข้อกฎหมายและยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอามาเป็นข้ออ้างว่าทำไมเศรษฐกิจถึงไม่ดี เราต้องทำงานกันต่อไป
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมชี้แจงงบประมาณปี 2568 ต่อที่ประชุมสภา อย่างเช่น กระทรวงกลาโหมก็ได้ส่งทหารไปซักซ้อมตอบคำถาม สส. มองอย่างไร เศรษฐากล่าวว่า เรื่องของการเตรียมความพร้อม การให้เกียรติรัฐสภา ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการให้เกียรติกันและกัน ส่วนการเลือกตั้ง สว. ที่มีความสับสนอยู่จนหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เลย ให้เป็นขั้นตอนของฝ่ายนิติบัญญัติไป
