PLUS จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันแรก 20 พฤษภาคมนี้ ด้วยราคาหุ้น IPO ที่ 4.50 บาท โดยจะนำเงินระดมทุนไปขยายโรงงาน ลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม และจ่ายคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน
บมจ.โรแยล พลัส (PLUS) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 4.50 บาทต่อหุ้น จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม วันที่ 20 พฤษภาคมนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ราคา IPO ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Enterprise Value to EBITDA Ratio: EV/EBITDA) ที่ประมาณ 15.3 เท่า โดยคำนวณจากกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2564) สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ PLUS ด้วยผลประกอบการที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต
ขณะที่ EV/EBITDA ของคู่เทียบ เช่น ICHI, MALEE, OISHI, SAPPE และ TIPCO อยู่ในช่วง 8.8-70.3 เท่า
ทั้งนี้ PLUS ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยสินค้าสามารถแบ่งเป็น
- กลุ่มน้ำผลไม้ ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว น้ำนมมะพร้าว น้ำผลไม้ผสมเม็ดแมงลัก น้ำผลไม้ผสมเมล็ดเชีย
- กลุ่มเครื่องดื่มทั่วไป ได้แก่ ชานม เครื่องดื่มวิตามิน และเครื่องดื่มอื่นๆ โดยมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer: OEM)
ขณะเดียวกัน PLUS มีการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท เช่น น้ำมะพร้าว ตรา Coco Royal, น้ำผลไม้ผสม ตรา Nita, Coco Royal และ Mabu, ชานม ตรา Mabu และ เครื่องดื่มวิตามิน ตรา C-Boom
นอกจากนี้ PLUS ได้พัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่คือเครื่องดื่มน้ำนมมะพร้าวและโยเกิร์ตมะพร้าวภายใต้แบรนด์ Mabu ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ โดยใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก (Plant-Based) โดยคาดว่าจะสามารถผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565
สำหรับเงินระดมทุนราว 765 ล้านบาท จะใช้ลงทุนในโครงการขยายโรงงาน และเครื่องจักรเพิ่มเติมประมาณ 235.3 ล้านบาท จ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 75 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคตประมาณ 424.7 ล้านบาท
และเฉพาะแผนลงทุนปี 2565 PLUS จะนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนไปใช้รองรับการลงทุนโครงการติดตั้ง Solar Rooftop ใช้พื้นที่หลังคา 8,000 ตารางเมตรที่โรงงานสาขา 2 อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ขนาด 1 เมกะวัตต์ มูลค่า 35.3 ล้านบาท และลงทุนในสายการผลิตระบบการบรรจุแบบปลอดเชื้อ (Aseptic) สำหรับขวดพลาสติกแบบ PET ที่โรงงานสาขา 2 มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท
พลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรแยล พลัส (PLUS) กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายยอดขายปี 2565 เติบโตไม่น้อยกว่า 50% จากปี 2564 ที่มียอดขาย 1,009 ล้านบาท และมีเป้าหมายในช่วง 3-5 ปี ยอดขายจะเติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปี
“ส่วนกรณีเงินบาทที่อ่อนค่าเฉลี่ย 34 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทให้เพิ่มขึ้น 1.5% เนื่องจากสัดส่วนยอดขายที่เป็นรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สูงถึง 62% นอกนั้นเป็นเงินหยวนและเงินบาท” พลแสงกล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2564) มีรายได้จากการขาย 786.4 ล้านบาท, 891.5 ล้านบาท, 1,102.8 ล้านบาท และ 1,003.2 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมะพร้าวและคำสั่งซื้อของลูกค้าทวีปอเมริกาเพิ่มขึ้น ขณะที่มีกำไรสุทธิ 1.3 ล้านบาท, 11.7 ล้านบาท, 57.2 ล้านบาท และ 85.6 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.2, 1.3, 5.2 และ 8.5% ตามลำดับ จากการบริหารจัดการการผลิต ต้นทุน และการดำเนินการที่ดีขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น