วันนี้ (22 กรกฎาคม) ปลอดประสพ สุรัสวดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Plodprasop Suraswadi จากกรณีที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าววิพากษ์วิจารณ์กระบวนการดำเนินการของพรรคก้าวไกลและเปรียบเทียบเรื่องรุ่นอายุ
โดยระบุว่า “ร่วมสามัคคีกันทำงาน ไม่ใช่ไล่ส่งกัน ผมต้องขออนุญาตท่าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ แสดงความเห็นกรณีที่ท่านเพิ่งพูดเรื่องเด็ก คนแก่ และคนหนุ่มว่า ใครควรจะรอดกรณีเรือล่ม
“ขอเรียนว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะชี้ประเด็นทางการเมือง แต่ผมอยากจะเน้นเรื่องคุณธรรมและมารยาทแบบไทยๆ หรือแบบสุภาพบุรุษที่พวกเราได้เคยรับการอบรมมาแต่เด็ก
“แม้นว่าบ้านผมจะมีรถยนต์ใช้มาแต่เล็ก แต่ก็ได้มีโอกาสขึ้นรถรางและรถเมล์มาบ้าง ผมได้รับคำสั่งสอนและอบรมจากครอบครัวและโรงเรียนอย่างเคร่งครัดมาตลอดว่า ต้องลุกให้เด็ก ผู้หญิง และคนแก่นั่ง เราผู้ชายต้องเสียสละที่จะยืน
“แม้แต่วันนี้ผมก็ยังปฏิบัติอยู่ เช่น กรณีที่ไปขึ้นเครื่องบินแล้วต้องนั่งรถบัสไป แต่ตอนนี้กลับจะมีคนลุกให้ผมนั่งบ้างเพราะเขาคงเห็นว่าผมมีอายุแล้ว ซึ่งผมก็จะปฏิเสธทุกครั้งและขอบคุณเขาอย่างจริงใจ
“ในขณะเป็นอธิบดีประมง เคยเกิดเหตุเรืออยู่ในภาวะอันตรายจะอับปางหลายครั้ง ผมได้ออกคำสั่งให้ผู้หญิงและเด็ก (ถ้ามี) บนเรือสวมชูชีพ เพราะเขาเป็นผู้อ่อนแอไม่สามารถช่วยตัวเองได้ โดยตัวผมจะเป็นคนสุดท้ายที่จะใส่ชูชีพ และมีบางครั้งที่เสื้อชูชีพไม่พอ ผมก็เสียสละที่จะไม่ใส่เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้นำ (ทั้งๆ ที่ผมก็กลัวตายเหมือนกัน)
“ถ้าใครคิดว่าเรื่องนี้ผมโม้ก็ให้ไปถามคนกรมประมงกับคนกรมป่าไม้ที่ทำงานกับอุทยานทางทะเลว่า ผมทำเช่นนั้นจริงหรือไม่
“ในฐานะที่ผมกับท่านรู้จักกันดี ผมอยากแนะนำให้ท่านพูดเรื่องนี้ใหม่อีกสักครั้งเถอะ เพราะผมคิดว่าท่านคงจะหลุดปากออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะโดยประวัติแล้วท่านเป็นผู้ที่เสียสละ แม้แต่ชีวิตก็เคยมอบให้กับประเทศชาติมาแล้ว
“อีกเรื่องคือการพูดใส่หน้ากัน ท่านก็ถูกวิจารณ์อีกเหมือนกัน ท่านมีเสียงเพียงเสียงเดียว ได้รับเกียรติเชื้อเชิญจากพรรคก้าวไกลซึ่งมีถึง 151 เสียงและเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ท่านกลับไปพูดเหมือนไล่เขาต่อหน้าเลย (เลขาธิการพรรคก้าวไกล) มันน่าจะไม่ค่อยเหมาะสมนะครับ
“เท่าที่ผมจำได้ การตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ในการประกาศนโยบายที่สำคัญเขาจะใช้เฉพาะพรรคที่มีเสียงมากๆ เท่านั้น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีเสียงรวมกันถึง 291 เสียง (มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทน 41 เสียง) หากเขาไม่เชิญพรรคอื่นขึ้นมานั่งเลยก็แทบจะทำได้ ขณะที่ท่านพูดเรื่องนี้ ผมสังเกตเห็นผู้ใหญ่ของหลายพรรคแสดงความตกใจมาก มีหลายคนแสดงสัญลักษณ์ทางมือขอให้ท่านหยุดพูด และมีคนหนึ่งพยายามดึงท่านลงไปด้วยซ้ำ
“กรุณาเถอะครับ เขากำลังใช้ความสามัคคีปรองดองสร้างรัฐบาลเพื่อทำงาน ไม่ใช่การใช้วิธีการแบ่งแยกเลือกข้างเพียงเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้ประโยชน์เท่านั้น
“ด้วยความเคารพ ต้องขอโทษที่เอ่ยชื่อท่านและแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้”
อ้างอิง: