บางครั้งชีวิตนักกีฬาก็ต้องยอมถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อก้าวกระโดดไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า เช่นเดียวกับ บิว-ภูริพล บุญสอน นักกรีฑาทีมชาติไทย ที่กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ กับโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่ชาวสหรัฐฯ ซึ่งได้เข้ามาปรับรูปแบบการฝึกซ้อมของเจ้าบิวใหม่ทั้งหมด โดยมุ่งหวังให้เขาพัฒนาขึ้นเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง
บิวเล่าถึงประสบการณ์ฝึกซ้อมที่สหรัฐอเมริกาให้ THE STANDARD SPORT ฟังว่า ช่วงแรกเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เพราะเขาไม่ค่อยชอบอยู่ไกลบ้าน แต่โชคดีที่มีคนไทยในพื้นที่ รวมถึง คีริน ตันติเวท นักวิ่งลูกครึ่งไทย-สหรัฐฯ คอยช่วยเหลือ ทำให้การปรับตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
“ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ห่างไกลบ้านเท่าไหร่ครับ ช่วงแรกๆ จะรู้สึกว่าปรับตัวยาก แต่โชคดีได้พี่ๆ คนไทยที่อาศัยอยู่อเมริกา เขาติดตามผมตั้งแต่อยู่ไทย พอรู้ว่าผมจะมาอยู่ที่นั่น เขาก็ Reply Story มาชวนไปเที่ยว ไปทานข้าว ก็เลยปรับตัวได้ง่ายขึ้น”
“ส่วนพี่คีรินคอยให้คำปรึกษาตลอดครับ ต้องการอะไรก็บอกเขาได้ พี่เขาเป็นนักกีฬาที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ได้ดูเขาซ้อมผมก็ได้เรียนรู้ว่านักกีฬาระดับโลกเขาจัดการตัวเองยังไง”
เมื่อการใช้ชีวิตเริ่มลงตัวมากขึ้น บิวจึงโฟกัสกับการฝึกซ้อมได้เยอะขึ้นเช่นกัน เจ้าของ 3 เหรียญทองซีเกมส์ที่เวียดนาม อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างการซ้อมที่อเมริกากับไทยว่า
“การซ้อมที่อเมริกาจะให้ความสำคัญพัฒนาทางด้านร่างกาย เทคนิคและวิธีการดูแลตัวเองมากกว่า ผมต้องเวทเทรนนิ่งเยอะขึ้น โค้ชเขาก็ใส่ใจในรายละเอียดมากครับ ถามแบบลงรายละเอียดเลยว่าจุดอ่อนของผมคืออะไร อยากให้โฟกัสจุดไหน ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ”
หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่สหรัฐฯ บิวกลับมาฝึกซ้อมต่อในไทยเพื่อเตรียมซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยได้ดึงตัว เจนทรี แบรดลีย์ โค้ชระดับนานาชาติชาวอเมริกัน เข้ามาคุมทีมกรีฑาระยะสั้นเป็นเวลา 3 เดือน โดยมีเป้าหมายคือความสำเร็จในซีเกมส์ครั้งนี้
“เปลี่ยนใหม่หมดเลยครับ” บิว พูดถึงการทำงานร่วมกับโค้ช เจนทรี แบรดลีย์
“เขาปรับแก้ให้ผมหลายอย่าง ตั้งแต่จุดสตาร์ท แรงช่วงกลางหรือแรงระเบิดตอนปลาย เขาเปลี่ยนใหม่หมดเลย เปลี่ยนทุกๆ อย่าง ซ้อมหนักขึ้นมากๆ”
“จุดสตาร์ทเป็นสิ่งที่ผมต้องปรับปรุงต่อไป ไม่ใช่แค่การตอบสนองจากเสียงสัญญาณออกตัวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเพิ่มความแข็งแรงในการถีบบล็อกสตาร์ทด้วย”
การเริ่มใหม่ครั้งนี้เปรียบเสมือนถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นก็คือการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ทั้ง 3 อีเวนต์ รวมไปถึงการทลายกำแพง 10 วินาที วิ่ง 100 ม. ลงให้ได้
“ซีเกมส์ครั้งนี้ผมคาดหวังอยากทำเวลาวิ่ง 100 ม. ให้ต่ำกว่า 10 วินาทีให้ได้ เพราะว่าครั้งนี้แข่งที่ประเทศไทย แล้วก็แข่งสนามศุภชลาศัยซึ่งเป็นสนามที่ผมลงแข่งมาตั้งแต่เด็กๆ ยังเป็นสนามโปรดของผมอีกด้วย ก็อยากที่จะวิ่ง 9 วินาทีให้ได้” เจ้าบิวทิ้งท้ายเป้าหมายในซีเกมส์หนนี้
คู่ปรับตลอดกาล
เทพบิว เปิดตัวซีเกมส์ครั้งแรกในปี 2022 ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ด้วยการคว้า 3 เหรียญทอง ส่วนซีเกมส์หนล่าสุดเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บทำให้ชวดคว้าเหรียญรางวัลในทุกอีเวนต์
ซีเกมส์หนนี้เทพบิวจะลงแข่งขัน 3 อีเวนต์ ระยะ 100 ม., 200 ม. และ ผลัด 4×100 ม. ชาย โดยมีมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ขนาบข้างมาเป็นคู่แข่งสำคัญ
ข้อมูลสถิติจาก worldathletics ระบุผลงานของนักกีฬาจากภูมิภาคอาเซียนที่ดีที่สุดในแต่ละอีเวนต์ไว้ดังนี้
ระยะ 100 ม. สถิติดีสุดในซีซั่นนี้เป็นของ เทพบิว ทำไว้ที่ 10.15 วินาที เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตามมาด้วย Muhd Azeen Fahmi ดาวรุ่งวัย 21 ปี จากมาเลเซีย เจ้าของเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2022 สถิติ 10.20 วินาที ทำไว้ในเดือนเดียวกัน และ Lalu Muhammad ZOHRI ลดกรดวัย 25 ปีจากอินโดนีเซีย ดีกรีแชมป์โลก 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ทำสถิติ 10.21 วินาที ทำได้เมื่อตุลาคม 2025
ส่วนระยะ 200 ม. ผลงานดี ในปี 2025 เป็นของ Muhd Azeen Fahmi สถิติ 20.79 วินาที ตามด้วย Marc Brian LOUIS นักวิ่งวัย 23 ปีจากสิงคโปร์ เวลา 10.31 วินาที
ผลัด 4×100 ม. ทีมไต้ฝุ่นไทย ภายใต้การนำของเทพบิวกลายเป็นทีมที่ทำได้สถิติสุดในปี 2025 เวลา 38.78 วินาที ทำไว้เมื่อในพฤษฎาคม 2025 ตามด้วย สิงคโปร์ สถิติ 39.68 วินาที ทำไว้ในเมษายน 2025 และ มาเลเซีย สถิติ 39.68 วินาที ทำไว้เมื่อ 3 เดือนก่อน
กรีฑาแข่งที่ไหน ชิงกี่เหรียญทอง
กรีฑา ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ชิงชัย 47 เหรียญทอง แข่งขันระหว่างวันที่ 11-16 ธันวาคมนี้ แบ่งสนามแข่งขันออกเป็น 2 สนาม ประเภทลู่และประเภทลาน แข่งขันกันที่สนามศุภชลาศัย ส่วนประเภทถนน ได้แก่ วิ่งมาราธอนและเดินทน 20 กม. แข่งกันที่สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิตหรือสกายเลน
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ส่งนักกรีฑาเข้าร่วมทั้งหมด 80 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 46 คน และนักกีฬาหญิง 34 คน ประเภทลู่นำทีมโดย บิว-ภูริพล บุญสอน เจ้าของ 3 เหรียญทองซีเกมส์ 2021, สรอรรถ ดาบบัง, แชมป์เก่าวิ่ง 100 ม. และ 200 ม. ชาย, คีริน ตันติเวทย์, อธิชา เพ็ชรกุล ตัวหลักชุดแชมป์ผลัด 4×100 ม. หญิง
ส่วนประเภทลานแกนหลักที่ช่วยกันคว้าเหรียญทองจากซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่กัมพูชาอย่าง ตะวัน แก้วดำ (กระโดดสูง), สุทธิศักดิ์ สิงห์ขรณ์ (ทศกรีฑา), สุเบญรัตน์ อินแสง (ขว้างจักร), ปริญญา เฉื่อยมะเริง (เขย่ง ก้าว กระโดด), จริยา วิชัยดิษฐ์ (พุ่งแหลน) ยังอยู่กันครบ ร่วมกันลุ้นรักษาแชมป์ต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยเอาไว้ให้ได้
สำหรับผลงานของทัพกรีฑาไทยในซีเกมส์ 2023 ทำผลงานได้ 16 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง เบียดชนะเวียดนามคู่ปรับตลอดกาลพร้อมกลับมาครองเจ้าเหรียญทองกรีฑาในซีเกมส์ได้เป็นหนแรกในรอบ 8 ปี ส่วนซีเกมส์หนนี้ทางสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 17 เหรียญทอง
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าภาพไปด้วยกัน ด้วยการติด Hashtag #เชียร์ไทยในบ้านเรา #SEAGAMES2025 #ซีเกมส์
