จากเหตุระทึกที่ ริชาร์ด รัสเซลล์ พนักงานภาคพื้นดินของสายการบิน Horizon Air ขโมยเครื่องบินโดยสารออกจากสนามบินซีแอตเทิล-ทาโคมา ในสหรัฐฯ ก่อนทำเครื่องตกเสียชีวิตห่างออกไปราว 25 ไมล์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ส.ค.) ล่าสุดทางการเปิดเผยว่าพนักงานคนนี้ทำงานกับสายการบินมานาน 3 ปีครึ่ง และเป็นที่รักของคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง
หน้าที่หลักๆ ของรัสเซลล์ คือการพ่วงจูงเครื่องบิน จัดระเบียบ และโหลดกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร โดยในวันเกิดเหตุ เขาขโมยเครื่องบินโดยสารขนาดความจุ 76 ที่นั่งแบบ Bombardier Q400 โดยใช้รถแทรกเตอร์ลากจูง (Pushback Tractor) ลากเครื่องบินจากจุดซ่อมบำรุงมายังตำแหน่งเทกออฟ จากนั้นเขาได้ขับเครื่องบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล-ทาโคมา เมื่อเวลา 19.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น
หลังบินอยู่บนอากาศนาน 90 นาที เครื่องบินก็ลดระดับลง และตกบนเกาะเคทรอนในเขตพิวเจ็ตซาวด์ นอกชายฝั่งซีแอตเทิล
ในบันทึกเสียงสนทนาระหว่างรัสเซลล์ วัย 29 ปี กับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศเผยว่า เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายใคร และเขาทราบดีว่ามีคนมากมายที่รักเขา
ขณะที่ครอบครัวของรัสเซลล์เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า พวกเขารู้สึกช็อกและหัวใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรัสเซลล์เป็น “สามีที่ซื่อสัตย์ ลูกที่น่ารัก และเพื่อนที่ดี”
ด้านเจย์ แท็บบ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ในซีแอตเทิล เผยว่า “ณ เวลานี้เราเชื่อว่าเขาอยู่บนเครื่องบินลำนั้นคนเดียว” พร้อมกับยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่เป็นคดีอาชญากรรม ซึ่งมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจุดตกเพื่อกู้ซากเครื่องบิน รวมถึงอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินเพื่อนำไปตรวจสอบแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดคำถามตามมาเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ ล่าสุดท่าอากาศยานทั่วประเทศได้สั่งทบทวนแก้ไขกฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว
ด้านเดวิด ซูซีย์ นักวิเคราะห์จากสำนักข่าว CNN มองว่ากฎระเบียบมีความหย่อนยาน เพราะไม่ควรอนุญาตให้รัสเซลล์นำเครื่องขึ้นเพียงคนเดียวแต่แรก เนื่องจากมีกฎอยู่ว่า ‘หากคุณจะขึ้นเครื่อง คุณต้องแน่ใจว่าคุณสามารถเช็กความถูกต้องกับคนอื่นได้ เพราะคนเหล่านั้นจะเป็นคนยืนยันกับคุณว่าคุณมีอำนาจเข้าไปในเครื่องบินลำนั้นหรือไม่’
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
