วันนี้ (16 เมษายน) ที่ สน. บางซื่อ พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ภายหลังมีการเข้าเก็บพยานหลักฐาน ทั้งเหล็กเส้น ปูน และวัตถุพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสอบปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี
พล.ต.ต. นพศิลป์ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้ทางนิติเวชยืนยันศพผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ราย ชิ้นส่วนด้านบนและท่อนล่าง 2 ราย ผู้สูญหาย 50 ราย ส่วนการสอบปากคำได้สอบปากคำไปแล้ว แบ่งเป็นผู้บาดเจ็บ 7 ราย ประจักษ์พยาน 55 ราย ญาติผู้เสียชีวิต 26 ราย และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนผู้ว่าจ้างคือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนคู่สัญญารับจ้างออกแบบ ผู้แทนคู่สัญญารับจ้างงานก่อสร้าง ผู้แทนคู่สัญญารับจ้างควบคุมงาน ผู้ตรวจรับวัสดุของ สตง. และเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง รวม 29 ปาก ทำให้รวมตอนนี้สอบปากคำไปแล้ว 117 ปาก แต่การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น
ส่วนการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าเก็บหลักฐานหน้างานและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง เหล็กเส้น 193 ชิ้น คอนกรีต 36 รายการ โดยได้ส่งให้ตรวจสอบแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำ
รวมถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งการออกแบบ การรับเหมาก่อสร้าง การควบคุมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามลายเซ็นในการออกแบบ ให้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งผู้ออกแบบ และผู้ควบคุมงาน ขณะนี้ทยอยเข้ามาให้ปากคำแล้ว โดยผู้ออกแบบ ของทั้งสองบริษัทเข้ามาให้ปากคำแล้ว 3 ราย และยังขาดอีก 2 ราย
สำหรับกรณีของ ปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้า PKW ที่ สตง. จ้างควบคุมงานก่อสร้าง พล.ต.ต. นพศิลป์ ระบุว่า ได้นัดหมายเรียกมาสอบปากคำวันที่ 21 เมษายนนี้
ทั้งนี้ การเรียกสอบปากคำ ตำรวจได้ออกหมายเรียกตั้งแต่มีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนแล้ว แต่บางรายก็ขอเลื่อนจึงได้ออกหมายเรียกซ้ำ หลังจากนี้หากยังไม่มาก็จะให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวเพื่อมาให้ปากคำในข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร เพื่อหาผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนงาน ซึ่งปฏิวัติเป็นส่วนหนึ่งของผู้รับสัญญาจ้างที่รับงานจาก สตง.
พล.ต.ต. นพศิลป์ ระบุว่า เบื้องต้นรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ส่งตรวจสอบก่อน และรอผลการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน พร้อมได้พยายามเร่งเพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ และให้หลักฐานชัดเจนบ่งชี้ว่า สาเหตุของอาคารถล่มมาจากสาเหตุใด ส่วนสำนวนชันสูตรพลิกศพ ได้ตั้งไว้แล้วเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
พล.ต.ต. นพศิลป์ ยืนยันว่าจะสอบสวนให้เร็วที่สุด เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการให้ความจริงกระจ่าง เพื่อตอบโจทย์ของสังคมและประชาชน ตั้งแต่แต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจทำงานทุกวันในการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้พยานหลักฐานชี้ชัด และต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยทั้งวิศวกรรมสถานฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกองพิสูจน์หลักฐานในการตรวจสอบปูน เหล็ก และวัสดุก่อสร้าง ที่ต้องรอผลการตรวจส่วนนี้ด้วย
ส่วนกรณีการปลอมลายเซ็น สน. วังทองหลาง ได้นำเสนอเรื่องมาที่ บช.น. แล้ว จึงคาดว่าจะรวบเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน โดยมีสำนวนคดีอาคารถล่มเป็นคดีหลัก