การเมืองใกล้เลือกตั้งที่ว่าร้อน ยังไม่ร้อนเท่าการโต้ตอบระหว่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งวันนี้อยู่ในหมวกของคณะก้าวหน้า กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากชายคาอนาคตใหม่ วันนี้มาถือธงนำเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งสืบเจตนารมณ์เดิมของพรรคอนาคตใหม่
THE STANDARD สรุปวิวาทะผ่านโลกออนไลน์ระหว่างปิยบุตรและพิธา
- ราวปลายปี 2565 ปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์และให้ข้อแนะนำพรรคก้าวไกลในการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง 2566 โดยเขียนบทความแรกคือ ‘พรรคก้าวไกลกับทวิสภาวะแปลกแยก’ กล่าวถึงพรรคก้าวไกลบนสภาวะการเมืองปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นแกะดำสำหรับการเมืองไทย ปิยบุตรจึงแนะนำให้พรรคก้าวไกลใช้โอกาสในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เปลี่ยนความคิดผู้คนให้พรรคก้าวไกลกลายเป็นแกะขาว และตอนที่ 2 ของบทความเดียวกันกล่าวถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่าง ส.ส. กับทีมงานเบื้องหลังพรรคก้าวไกล
- ต่อมาปิยบุตรโพสต์ข้อความ 10 ประเด็นถึงพรรคก้าวไกล โดยระบุตอนหนึ่งว่า “ผมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่และเคยเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ณ วันนี้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ทางกฎหมาย ผมไม่สามารถมีบทบาทใดๆ ในพรรคก้าวไกล ไม่ได้มีส่วนรับรู้การบริหารการจัดการใดๆ ของพรรค ทำได้แต่เพียงเฝ้าติดตามผลงานและคอยเอาใจช่วย หลายๆ เรื่อง ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะสื่อสารถึงใคร อย่างไร ใครมีอำนาจตัดสินใจ ใครมีอำนาจดำเนินการ จึงไม่แน่ใจว่าความเห็นของผมที่ฝากไปบอกต่อๆ กันนั้นจะไปถึงผู้รับผิดชอบหรือไม่ และถูกนำมาพิจารณาหรือไม่” และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีบทบาทใดๆ ในพรรคก้าวไกล
- จากวันนั้นปิยบุตรก็โพสต์ข้อความถึงพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่องในประเด็นต่างๆ เช่น พรรคก้าวไกลกับการแก้ มาตรา 112, ความสัมพันธ์ของผมกับพรรคก้าวไกล, พรรคก้าวไกลต้องทำอย่างไรกับคะแนนนิยมที่หยุดนิ่ง, ทางสองแพร่งของพรรคก้าวไกล, บทบาทของพรรคก้าวไกลในการเมืองระยะเปลี่ยนผ่าน และล่าสุด ‘แลนด์สไลด์’ ที่พรรคก้าวไกลแก้ไม่ออก
- แต่แล้วค่ำคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ใช้โอกาสครบ 3 ปี วันยุบพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความถึงปิยบุตร โดยใจความสำคัญคือการพูดถึงสถานการณ์ ณ ขณะนั้น วันที่พรรคอนาคตใหม่ใกล้จะถูกยุบ พิธาถูกร้องขอให้มารับตำแหน่งหัวเรือของพรรคใหม่ ซึ่งต่อมาคือพรรคก้าวไกล เพื่อสืบต่ออุดมการณ์ทางการเมือง
- พิธาระบุต่อว่า น่าเสียดายที่ต้องมาสื่อสารกันผ่านทางช่องทางออนไลน์ ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเป็นประธานคณะก้าวหน้า เคยพูดกับทั้งปิยบุตรและพิธาว่า “อีกหน่อยเราอาจจะต้องทะเลาะกันหนักมากนะ แต่ถึงอย่างไรขอให้จบกันในพวกเราเอง เป็นมืออาชีพ ไม่ปล่อยความขัดแย้งไปข้างนอก”
- พิธายังระบุด้วยว่า แม้ตนเองต้องเผชิญการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด 3 ปีที่เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็เข้าใจว่าคนเราทุกคนวิจารณ์กันได้ แต่เมื่อการวิจารณ์ครั้งนี้มาจากคนที่เคยมาขอร้องให้ตนเองเป็นหัวหน้าพรรค จึงต้องทบทวนบทบาทตัวเองทั้งการทำงานในกองอำนวยการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล และบทบาทของตนเองในขณะนี้
- ปิดท้ายโพสต์ดังกล่าวของพิธาด้วยการให้ 2 ตัวเลือกแก่ปิยบุตรคือ ปิยบุตร ‘ต้องเลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ’ กลับมาช่วยพรรคก้าวไกล ทำให้คนที่เคยปรามาสอนาคตใหม่ ก้าวไกล คิดผิด และอนุญาตให้พิธาและอีกหลายร้อยชีวิตที่พรรคมีสมาธิในการทำงานโค้งสุดท้าย หรือปล่อยให้พรรคก้าวไกลเสียสมาธิจนเราลืมไปว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร ทิ้งโอกาสในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทิ้งหยาดเหงื่อแรงงานของสมาชิกพรรค ทีมงานพรรค และปล่อยให้ 3 ป. ยังสืบทอดอำนาจต่อไป
- ต่อมาปิยบุตรได้แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ข้อความดังกล่าวว่า “เพิ่งได้อ่านที่พิธาเขียนเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้ผมทั้งหมด” พร้อมระบุต่อว่า จะเขียนอธิบายให้ฟังทั้งหมดยาวๆ ทั้งๆ ที่ไม่อยากพูดเรื่องพิธา ที่ผ่านมาพยายามวิจารณ์พรรคอย่างตรงไปตรงมา ไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่พิธาโพสต์สื่อสารถึงตนโดยตรงขนาดนี้ พิธาคงอยากคุยในที่สาธารณะ จึงจำเป็นต้องตอบโดยละเอียดทุกประเด็น “ประชาชน สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรค จะได้รู้เสียทีว่าพิธาเอารัดเอาเปรียบพวกผม ทีมงาน พนักงาน ทีมจังหวัดทั่วประเทศ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. เพียงใด ใครกันแน่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ใครกันแน่จับเสือมือเปล่า”
- ปิยบุตรระบุต่อในข้อความว่า “พิธาเขียนแบบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าผม “แต่ที่น่ารังเกียจกว่าคือ การเขียนขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว เสียมากกว่า จนทำให้พนักงาน ทีมงาน ทั่วประเทศคงอึ้งไปตามๆ กันว่าพิธาเป็นผู้นำเพื่อนร่วมงานกว่าร้อยชีวิต แล้วผมเป็นคนที่ไม่เป็นมืออาชีพมาทำลายพรรคก้าวไกลอย่างที่พิธาพูดจริงหรือ เขียนขาวเป็นดำว่าพิธาเป็นพระเมสสิอาห์มากอบกู้พรรค ส่วนผมกลายเป็นพวกทำลายพรรค”
- ปิยบุตรยังประกาศด้วยว่า นับแต่วันนี้จะเขียนอธิบายยาวๆ ไปเรื่อยๆ และพร้อมจะไปออกสื่ออธิบายทั้งหมดว่าพิธาทำอะไรบ้าง และทิ้งท้ายว่า “แต่ด้วยความรักพรรคก้าวไกลเช่นนี้ เห็นพฤติกรรมของพิธาแบบนี้ ผมคงปล่อยผ่านไม่ได้ครับ มิเช่นนั้น ผมจะทำบาปต่อพรรคก้าวไกลและประเทศชาติ ถ้าคิดถึงความถูกต้องและการต่อสู้ระยะยาว พรรคก้าวไกลและเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยกันมาตั้งแต่ยังเป็นวุ้น ปล่อยพิธาแบบนี้ต่อไปไม่ได้ครับ”
- ขณะที่เช้าวันนี้ (22 กุมภาพันธ์) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การที่ปิยบุตรโพสต์เฟซบุ๊กตลอดมาถึงการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลในหลายๆ เรื่อง เชื่อว่าปิยบุตรคงอยากเห็นพรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ขณะที่พิธาก็อาจจะคาดหวังให้ปิยบุตรทำในส่วนอื่นที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวในเรื่องประชาธิปไตย สุดท้ายจะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย ตั้งแต่ตอนที่ตั้งพรรคอนาคตใหม่จนถึงตอนที่ยุบพรรค และจนถึงปัจจุบัน
รังสิมันต์เชื่อว่าเบื้องหลังถ้อยคำที่รุนแรงนั้นจะพบว่าแต่ละคนล้วนมีแต่ความปรารถนาดี พร้อมยืนยันว่าเป็นแค่การถกเถียง ไม่ใช่แตกแยก
- อีกเพียงอึดใจเดียว พรรคก้าวไกลภายใต้การนำของพิธา ซึ่งสานต่ออุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่ริเริ่มโดยปิยบุตร กำลังจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งที่เข้มข้นที่สุดครั้งหนึ่ง แต่การเปิดปมวาทะร้อนผ่านโลกออนไลน์ของทั้ง 2 คนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว กินข้าวหม้อเดียวกันมาก่อน ไม่ว่าครั้งนี้จะปะทะจริงหรือมีบท ย่อมทำให้ ส.ส. สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนต่างหวั่นใจและตั้งคำถามไม่น้อย ในห้วงเวลาที่กำลังเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ และเตรียมพร้อมในการออกสนามรบที่มีคู่แข่งในสนามมากมาย กลับต้องมาเจอศึกภายในที่ดูเหมือนจะยังไม่จบง่ายๆ ภายในเร็ววัน