วันนี้ (17 พฤศจิกายน) จากกรณี สุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอรอฟังคำอภิปรายร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับ iLaw ก่อนว่าจะตีความเป็นการแก้ทั้งฉบับหรือไม่
จากนั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคเพื่อไทย ความว่า
ผมคุ้นเคยกับ ส.ส. และแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน มีโอกาสพูดคุยและร่วมงานกันบ่อยครั้ง ผมเข้าใจเหตุการณ์ที่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาเป็นเพื่อไทยและไทยรักษาชาติ ประสบพบเจออย่างดี หลายกรณีผมออกไปวิจารณ์การตัดสินของศาลและองค์กรอิสระที่เป็นโทษกับไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นคนเข้าใจเพื่อไทยดีมากๆ คนหนึ่ง แต่ ณ วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมาก ผมอยากชวนให้คิดใหม่อีกครั้ง
เราต่างก็รู้กันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการเพื่อให้มี สสร. มาทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา ภายใต้กรอบ ‘ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข’ นั้นสามารถทำได้ ไม่มีความผิดฐานล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด
แน่นอนพวกเรา ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ ไม่อาจไว้วางใจ นิ่งนอนใจได้ว่า ในท้ายที่สุดเมื่อมี ‘นักร้อง’ ร้องไปยังองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พวกเขาจะจัดการพวกเราอีกหรือไม่ แต่หากเรากลัวเรื่องแบบนี้ นั่นก็หมายความว่ากับดัก ค่ายกล ที่พวกเขาวางไว้นับแต่รัฐประหาร 49 ต่อเนื่องมา 57 ยังทำงานได้
มนุษย์ทุกคนต่างมีความกลัว ไม่พร้อมเสี่ยง ไม่กล้าออกจากพื้นที่สะดวกสบาย
แต่ความกลัวตลอดไป ไม่อาจหยุดยั้งไม่ให้พวกเขาหยุดการบดขยี้พวกเราได้
ยิ่งกลัว เขายิ่งกระทำกับพวกเรา
ยิ่งสยบยอม เขายิ่งบดขยี้พวกเราให้จมดิน
การถอยครั้งนี้จะสร้างบรรทัดฐานที่ผิดไปตลอดกาลว่า ราชอาณาจักรไทย ไม่สามารถเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญตามระบบได้
การถอยครั้งนี้จะสร้างบรรทัดฐานที่ผิดไปตลอดกาลว่า รัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกหมวด ทุกมาตรา รวมถึงหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์
การถอยครั้งนี้จะเป็นการ ‘ปิดประตู’ การปฏิรูปทุกสถาบันการเมือง รวมทั้งสถาบันกษัตริย์ โดยวิถีทางสันติ ตามกลไกรัฐสภา
การถอยครั้งนี้ทำให้หนทาง ‘การประนีประนอม’ ปิดตายลง จนราชอาณาจักรไทยไม่อาจเป็น ‘The Land of Compromise’ ได้
และการถอยครั้งนี้ ถอยในห้วงเวลาที่มีประชาชนมหาศาลสนับสนุน ย่อมทำให้ประชาชนสิ้นหวังกับสถาบันการเมืองในระบบทั้งหมด เมื่อรัฐสภาไม่ทำให้พวกเขา ประชาชนก็ต้องลงมือทำกันเอง และเมื่อประชาชนหลอมรวมปรากฏกายขึ้น ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ และไม่มีใครคาดหมาย ควบคุม ได้ด้วย
หลายคนวิเคราะห์ว่า พรรคอนาคตใหม่ในวันก่อนและพรรคก้าวไกลในวันนี้ เป็นคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทย บางคนบอกว่ายิ่งพรรคเพื่อไทยเป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกลได้การสนับสนุน ยิ่งต้องควรดีใจที่พรรคเพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้ ผมเห็นต่างครับ นี่ไม่ใช่การแข่งขันระหว่างพรรค ช้าเร็ว คงต้องแข่งกันแน่เมื่อการเลือกตั้งมาถึง
แต่ตอนนี้ต้องร่วมมือกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญในแบบที่ช่วยถอดสลักระเบิดอย่างแท้จริง
ยังพอมีเวลาอีก 1 วันเต็ม ผมอยากขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ แกนนำ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ได้พิจารณาทบทวนอีกครั้ง ร่วมกันลงมติรับหลักการ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของ iLaw ที่ประชาชนกว่าแสนคนร่วมกันเสนอ
ทั้งหมดก็เพื่อการเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญอย่างสันติ
ทั้งหมดก็เพื่อการปฏิรูปสถาบันการเมือง องค์กรตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงสถาบันกษัตริย์ ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย
ทั้งหมดก็เพื่อการหล่อเลี้ยงความหวังให้กับประชาชน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: