วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ที่รัฐสภา ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะแกนนำกลุ่ม Re-Solution แถลงข่าวภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน ด้วยคะแนนเสียงรับหลักการ 206 ไม่รับหลักการ 473 งดออกเสียง 6
พริษฐ์กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ข้อเสนอในร่างไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ เพราะทุกข้อเสนอไม่ได้สุดโต่ง และไม่ได้ต้องการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ เพียงแต่ต้องการสร้างระบบการเมืองที่ ‘ควร’ จะเป็น กล่าวคือ ค. คืนศักดิ์ศรีแก่สถาบันทางการเมือง ว. ไว้ใจประชาชน และ ร. ระบบที่เป็นกลาง จึงขอใช้พื้นที่นี้ขอบคุณสมาชิกรัฐสภาหลายคนที่รับหลักการ ขอบคุณสมาชิกบางคนที่แม้ไม่รับหลักการ แต่ได้อภิปรายเนื้อหาและแสดงความเห็นที่น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชน ขอบคุณเจ้าหน้าที่สภาที่ดูแลอำนวยความสะดวกในการประชุม และที่สำคัญต้องขอบคุณและขอโทษจากใจจริงต่อประชาชนกว่า 130,000 คนที่ร่วมเดินทางกับเรา หรือหลายคนที่ติดตามการอภิปรายและคาดหวังอยากให้ร่างฉบับนี้ผ่าน เราพยายามใช้เวลา 3 ชั่วโมงอย่างเต็มที่ในการโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภาให้เห็นชอบ แต่ต้องยอมรับว่าภารกิจนี้ยังไม่สำเร็จ แต่ท้ายสุดแล้ว การแก้รัฐธรรมนูญยังต้องเดินหน้าต่อไป เราเชื่อว่าถ้ายังมีรัฐธรรมนูญที่มีที่มา กระบวนการ และเนื้อหาที่ไม่ชอบธรรมทำ จะไม่สามารถแก้วิกฤตทางการเมืองได้
“ผ่านมาเกือบ 3 ปี ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด 3 รอบ มีเพียงร่างเดียวที่ผ่านได้คือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจประยุทธ์ นี่หรือคือนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ นี่หรือคือเนื้อหาสาระสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเคยประกาศไว้ว่าเป็นเงื่อนไขเข้าร่วมบริหารประเทศ” พริษฐ์กล่าว
ปิยบุตรกล่าวว่า ประเทศไทยมีความพยายามเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนมากขึ้นตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เพราะประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนอย่างเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้ทั้งหมด เห็นได้จากการเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเสนอร่างพระราชบัญญัติ ต่อมารัฐธรรมนูญ 2550 ไปไกลขึ้น คือประชาชนเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ นี่คือความก้าวหน้าที่หลายประเทศไม่มี แต่ความก้าวหน้าที่ปรากฏบนลายลักษณ์อักษรจะเกิดขึ้นจริงได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกรัฐสภา เพราะจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีสักครั้งที่รัฐสภาจะพิจารณารับหลักการร่างของประชาชน เราหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก เพราะเห็นความต้องการของประชาชนนอกสภา ก็หวังว่าสภาจะเงี่ยหูฟัง แต่วันนี้ก็ชัดเจนว่าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ยังไม่ยอมเปิดประตูให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากการเข้าชื่อของพี่น้องประชาชน
“สำหรับประชาชนที่เข้าชื่อกับเรา ประชาชนที่สนับสนุนแต่อาจไม่ทันได้ลงชื่อ และประชาชนที่ติดตามการประชุมสภาตลอด 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา อย่าเพิ่งสิ้นหวัง พวกเรายังมีลมหายใจ ยังมีความคิด และยังมีกำลัง ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทำได้ยากยิ่ง แต่หากเราหยุดเคลื่อนไหวรณรงค์ พวกเขาก็จะอยู่กับรัฐธรรมนูญที่เขาออกแบบได้ต่อเนื่องไปตลอดกาล ดังนั้นประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริงต้องเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะไม่สำเร็จกี่ครั้งก็ต้องลุกยืนขึ้นมาใหม่ ต่อสู้ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จให้ได้” ปิยบุตรกล่าว
ปิยบุตรกล่าวด้วยว่า ขอฝากความหวังไปยังผู้แทนราษฎรที่รับร่างของประชาชน ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับทุกข้อเสนอหรือเห็นด้วยบางส่วนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ส.ส. ที่สนับสนุนแนวคิดของร่างนี้จะนำไปออกแบบเป็นนโยบายและรณรงค์ผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อที่ประชาชนที่สนับสนุนร่างนี้จะได้ตัดสินใจเลือกท่านกลับมาไป ส.ส. เสียงข้างมาก แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ