วานนี้ (2 สิงหาคม) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ภายหลังพรรคเพื่อไทยประกาศฉีก MOU และไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ไม่มีอะไรที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ต้องเสียใจ ต้องเสียหน้า ต้องท้อแท้สิ้นหวัง และไม่มีอะไรที่ต้องคลางแคลงสงสัยว่าตนคิดผิด
ปิยบุตรระบุด้วยว่า พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียใจที่มองสถานการณ์ระยะสั้น พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียหน้า ตอบใครไม่ได้แม้กระทั่งตอบใจตนเอง ต้องแก้ปัญหาในสิ่งที่พูดไปแบบ ‘วัวพันหลัก’ พวกเขาต่างหากที่ต้องท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่รู้ว่าในอนาคตจะชนะก้าวไกลได้ด้วยวิธีไหน จะยุบ-จะตัดสิทธิอย่างไร ก็ฆ่า ‘ความคิด’ ไม่ตาย
“สังคมเปลี่ยน ความคิดจิตใจคนเปลี่ยน นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องขยับตาม ถ้าไม่นำมวลชน อย่างน้อยก็ต้องเคียงข้างกับความคิดที่เปลี่ยนแปลงไป หนทางพิสูจน์ม้าและเวลาพิสูจน์คน ใครถอยและใครทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา ดีเสียอีกที่การเมืองไทยได้ขีดเส้นใหม่ แบ่งใหม่ชัดเจน ต่อไปไม่ใช่สงครามสีเสื้อ ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรค แต่คือการต่อสู้ระหว่างอดีต vs. อนาคต อดีตแบบทศวรรษ 2520 ขยับทีละคืบไปสู่ทศวรรษ 40 กับอนาคตแบบใหม่ที่ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศร่วมกันกำหนด”
ปิยบุตรระบุเพิ่มเติมว่า เข็มนาฬิกาเดินหน้า ต่อให้ใครหยุดเข็มนาฬิกาไม่ให้เดิน อย่างไรมันก็จะเดินต่อไป ขอจงยืนตรงอย่างทระนงองอาจ เดินหน้าสู้ต่อภัยทั้งปวง ต่อสู้ตามแนวทางของตน ระลึกถึงแววตา เสียงร้อง อ้อมกอด และน้ำตา ของประชาชนที่ฝากความหวังให้กับพรรคก้าวไกล ตระหนักถึงภาระที่ประชาชนส่งมอบให้พรรคก้าวไกลนับแต่วันที่ 14 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ การเมืองไทยได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สู้จนกว่า…อำนาจสูงสุดจะเป็นของประชาชน
อ้างอิง: