×

พิธาเดินถนนคนเดินอุดรธานี ประกาศมาตามหาชัยชนะนายก อบจ. เชื่อเป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตย ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง

โดย THE STANDARD TEAM
16.11.2024
  • LOADING...
พิธา

วานนี้ (15 พฤศจิกายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง เดินทางไปยังถนนคนเดินอุดรธานีเพื่อหาเสียงช่วย คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ของพรรคประชาชน ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้

 

พิธากล่าวว่า เสียงที่ทุกท่านได้ยินอยู่นี้คือเสียงของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วันนี้มีเรื่องสำคัญมาบอก คือมาขอเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ. จากพรรคประชาชนที่มีเสียง สส. เป็นอันดับ 1 ในสภา วันนี้ขอมาตามหาชัยชนะ ขอคะแนนความไว้วางใจ

 

จากนั้นพิธาให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันแรกประเดิมลงพื้นที่อุดรธานี ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ได้เจอพี่น้องให้หายคิดถึง แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนกำหนดการ เนื่องจากเป็นวันลอยกระทง กังวลเรื่องการร่วมงานรื่นเริง ขอบคุณอีกครั้งที่ยังไม่ลืมกัน

 

ส่วนผลโพลที่ระบุว่าผู้สมัครของพรรคประชาชนมีคะแนนนำกว่าเท่าตัว เรื่องนี้ไม่ได้สนใจกับตัวเลขผลสำรวจ กว่า 50% ของประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งจะใช้วันนี้ที่ยังมีเวลาเสนอผู้สมัครจากพรรคประชาชน ขอเชิญชวนให้คนออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ

 

ส่วนการปราศรัยของทักษิณที่พาดพิงตนนั้น พิธาระบุว่า ไม่ได้คิดว่ามีสาระอะไรมาก ต้องพยายามดูผลประโยชน์ของคนอุดรธานีเป็นสำคัญ อย่างเรื่องที่บอกว่าต้องบินกลับมาเพราะกลัวแพ้นั้น ขอยืนยันว่า นักการเมือง นักเลือกตั้ง ไม่มีกลัวแพ้ เพราะแพ้มาเยอะ ชนะมาก็แยะ ซึ่งสนาม อบจ. ก็อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลง มีปัจจัยหลายอย่าง เพราะพี่น้องคนอุดรธานีต้องไปทำงานปากกัดตีนถีบที่ต่างประเทศ

 

ดังนั้นมีปัจจัยอื่นอีกมาก แพ้ไม่เป็นปัญหา มีแต่ชนะและพัฒนา ไม่มีแพ้ อย่างปี 2562 สนาม อบจ. เราได้มา 140,000 คะแนน, ปี 2563 ได้มา 180,000 คะแนน, ปี 2566 ได้มา 220,000 คะแนน เพราะฉะนั้นเราแข่งกับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะพรรคไหน จะเปลี่ยนผู้นำคนไหน จากผลคะแนนมีความเติบโตต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นคนที่เป็นนักการเมืองไม่เคยกลัวแพ้ เพราะแพ้ก็กลับมาชนะได้ ชนะก็กลับมาแพ้ได้ มีแต่เผด็จการที่กลัวแพ้เลือกตั้ง ถึงไม่ลงเลือกตั้งและใช้วิธีรัฐประหารเท่านั้น

 

ส่วนที่ทักษิณพาดพิงถึงประเด็นแก้ไขมาตรา 112 พิธากล่าวว่า ขอย้อนให้ประชาชนกลับไปดูว่าตอนเลือกตั้งแต่ละพรรคพูดอะไรไปบ้าง เรื่องมาตรา 112 จนถึงวันนี้เราถูกยุบไปแล้ว ยืนยันว่าที่เราทำไม่มีเจตนายกเลิกหรือทำให้คนเข้าใจผิด แต่เราต้องการปฏิรูปประเทศ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่กับประเทศไทย เพราะฉะนั้นความพยายามจะสาดโคลนมาก็ไม่ได้เป็นความจริงจนถึงทุกวันนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การมาจังหวัดอุดรธานีครั้งนี้มีความมั่นใจหรือไม่ พิธากล่าวว่า ก็มีความมั่นใจ และขอไม่เรียกว่าเมืองหลวงเสื้อแดง เรียกว่าถิ่นของประชาธิปไตย พร้อมยกผลการเลือกตั้งอุดรธานี เขต 1 ครั้งก่อนว่าพรรคก้าวไกลก็ได้คะแนนเสียงมากกว่าพรรคเพื่อไทย โดยทั้งจังหวัดพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 พรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 2 พรรคไทยสร้างไทยอันดับ 3

 

แต่ยอมรับว่าทั้ง 3 พรรคเป็นประชาธิปไตย เพราะถือเป็น 80% ของชาวอุดรธานี แต่หากจะบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแบบเฉดสีเดียวและจับมือกับทหารก็คงไม่ถูกต้อง ไม่น่าจะตรงกับเจตนารมณ์การลงคะแนนของชาวอุดรธานี แต่ที่นี่เป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตย ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง พร้อมยอมรับด้วยว่าที่มาอุดรธานีบ่อยๆ เพราะติดใจอาหาร

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X