×

พิธาโพสต์เปิดใจถึงปิยบุตร ให้เลิก ‘มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ’ เพื่อให้ก้าวไกลมีสมาธิสู้ในสนามเลือกตั้ง

โดย THE STANDARD TEAM
22.02.2023
  • LOADING...

วานนี้ (21 กุมภาพันธ์) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ ครบรอบ 3 ปี ยุบอนาคตใหม่ ความในใจหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ รวมถึง ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

 

พิธาระบุว่า เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้คือวันครบรอบ 3 ปีที่ฝ่ายชนชั้นนำพยายามบดขยี้พวกเรา พรรคการเมืองฝ่ายค้านหน้าใหม่ทั้งๆ ที่มีอายุไม่กี่ขวบดีด้วยซ้ำ วันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 3 ปี ที่ตนทำหน้าที่ผู้นำของพรรคที่ไม่มีแม้แต่ชื่อในตอนนั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาจนเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้

 

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตผมที่ได้นำทัพพรรคก้าวไกลทำงานทั้งในสภาและนอกสภาตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของประเทศเรา ไหนจะโรคระบาดครั้งใหญ่ ไหนจะปัญหาการเมือง ไหนจะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ลามมาถึงภาวะเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าการทำงานของผมจะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ ผมเองรู้ตัวผมดี แต่ผมก็ทุ่มเททั้งตัวและจิตวิญญาณเท่าที่มีให้กับการทำงานการเมือง ประกอบกับความช่วยเหลือและการทำงานเป็นทีมของพวกเราทีมงานพรรคก้าวไกลทุกคน ทำให้เราฆ่าไม่ตายอย่างที่พวกเขาหวังไว้ แต่กลับโตขึ้นอย่างที่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ”

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เรายังย้ำคำว่าเราคือผู้คนและการเดินทาง

 

  1. เราได้ความไว้วางใจจากประชาชนเป็นอันดับ 1 เป็นเวลา 4 ปีซ้อน ผ่านเงินบริจาคจากภาษี 164 ผมต้องขอบคุณแรงสนับสนุน

 

  1. ด้วยแรงของทีมงาน จำนวนสมาชิกของพรรค จำนวน 7 หมื่นกว่า แซงขึ้นเกินอนาคตใหม่ไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีช่วงโควิดมาทำให้งานหาสมาชิกของเรายากลำบาก

 

  1. เราเดินทางมากกว่า 50,000 กิโลเมตรทั่วประเทศและมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะทางมากกว่าเดินทางรอบโลกเสียอีก

 

“การเมือง สำหรับผม มันคือความตั้งใจ การเตรียมตัวตั้งแต่อายุ 21-22 ปี นั่งฟัง นั่งจดปัญหาประชาชนอยู่หลังห้องที่ประชุมทำเนียบรัฐบาลตอนปี 2547-2549 มันคือการเป็นเด็กคอยถอดคล้องพวงมาลัยว่าที่ผู้สมัครเวลาถามสารทุกข์สุขดิบชาวบ้าน ครูพักลักจำมาเรื่อยๆ มันคือการเริ่มต้นด้วยการเป็นเลขานุการ กรรมาธิการ ก่อนมาเป็นประธานเองหลายปีให้หลัง มันคือการไปเรียนต่อการเมืองโดยเฉพาะ เตรียมตัวกลับมาเพื่อเป็นนักการเมืองที่ดี ทำงานได้” 

 

พิธาระบุต่อว่า ย้อนเวลากลับไป 3 ปีที่แล้ว ตนยังจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ดี ณ ห้องอาหารแห่งหนึ่ง ตอนที่พรรคเริ่มโดนกล่าวหา เริ่มมีคดียุบพรรค 

 

“ผมและรองหัวหน้าก้าวไกลปัจจุบันหลายท่าน ถูกคุณปิยบุตรดึงเข้าไปเตรียมพร้อม กรณีเหตุการณ์แย่ที่สุดเกิดขึ้น คือพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พร้อมได้เล่าการเตรียมรับมือการทำลายความฝันพวกเรา ณ ตอนนั้น ไม่มีใครพร้อมรับการนำธง ส่วนตัวผมเอง เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลูกสาวพึ่งจะ 2 ขวบ แม้ผมจะพร้อมเสียสละทุกอย่างเพื่อพรรค ทั้งสุขภาพ ทั้งชีวิต ทั้งครอบครัว ผมขอเหลือไว้อย่างเดียวที่ทิ้งไม่ได้ คือบทบาทความเป็นพ่อของลูกสาว คุณปิยบุตรเข้าใจ เห็นพิพิมเป็นเหมือนหลาน และยอมรับเงื่อนไขนี้ ถ้าไม่มีใครยอมรับตำแหน่งจริงๆ ผมจะรับให้ ไม่งั้นเรือก็ต้องแตก ที่เราทำกันมาก็ต้องสูญเปล่าทั้งหมด ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ศัตรูต้องการ”

 

แต่ทั้งหมดทั้งปวง โครงสร้างบริหารพรรคต่อจากอนาคตใหม่ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามข้อบังคับพรรคใหม่ ตามความปรารถนาของสมาชิกพรรคใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง

 

ต่อมา คดีแรก Illuminati พรรคยังไม่ถูกยุบ ธนาธร ตนเอง และปิยบุตร ยืนคุยกันตอนบ่ายแก่ๆ หน้าสนามหญ้าแห่งหนึ่ง ธนาธรพูดขึ้นมาว่า “อีกหน่อยเราอาจจะต้องทะเลาะกันหนักมากนะ แต่ถึงยังไงขอให้จบกันในพวกเราเอง เป็นมืออาชีพ ไม่ปล่อยความขัดแย้งไปข้างนอก” ตนพยักหน้าบอก “เรื่องแบบนี้ในการเมืองเกิดขึ้นบ่อย และ Professionalism ที่พื้นฐานในการทำงานไม่ว่าจะองค์กรในคือ Praise in Public, Criticize in Private ผมเห็นด้วยกับพี่” ปิยบุตรอยู่ข้างๆ มี ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นั่งเก้าอี้หวายอยู่ข้างหลังห่างๆ

 

น่าเสียดายที่ตนกับปิยบุตรต้องมาสื่อสารกันทางนี้ ทั้งๆ ที่เราจะเจอกันตามตึกนิดๆ หน่อยๆ เหมือนเจออดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่คนอื่นๆ ที่นานๆ เจอกันที หรือบางครั้งที่ปิยบุตรนัดตนกินข้าวแล้วแคนเซิลตน จริงๆ ก็น่าจะ 3-4 วัน ก่อนที่ปิยบุตรจะตัดสินใจสื่อสารความคิดของเขาผ่านเฟซบุ๊กของเขาตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา

 

“สิ่งที่คุณปิยบุตรพูดถูกคือ การเมืองคือความเชื่อ ศัตรู 100 คนพูด 100 ครั้งก็ไม่น่าเชื่อ เท่าคุณปิยบุตรพูดซ้ำๆ ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรค ทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคต จะจริงไม่จริงไม่รู้ แต่คำพูดมันมีน้ำหนักของมัน พูดอะไร ไม่เท่ากับว่าใครเป็นคนพูด อะไรที่เป็นความเชื่อมันจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา แล้วความฝันของคนหลายร้อยคนที่ทำงานอย่างหนักต้องมาสูญเปล่า” พิธาระบุ

 

อีก 3 เดือนก่อนเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทย ในขณะที่องคาพยพพรรคก้าวไกลกำลัง ‘เข็นครกขึ้นภูเขา’ สู้กับอำนาจรัฐ อำนาจทุน ด้วยทรัพยากรจำกัด เราค่อยๆ วางแผนทีละเขตๆ ที่มีโอกาสชนะอย่างละเอียด อาสาสมัครกำลังหาสมาชิกเพิ่มให้ ทีมจังหวัดเราเตรียมจัดงานตั้งแต่ตี 5 ทำพื้นที่ล่วงหน้า จัดเวที ทุกคนเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อที่จะไปสื่อสารวิถีก้าวไกล ทีละเขต ทีละจังหวัด ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด เพื่อน ส.ส. เตรียมอภิปราย 152 จนโดนคดีเป็นร้อยล้าน 

 

“ในขณะที่พวกเรากำลังทำแบบนี้ คุณปิยบุตรปล่อยเขื่อนออกมาที่ละโพสต์ๆ ให้น้ำไหลออก ซัดครกที่พวกเราเข็นอย่างเหน็ดเหนื่อย ไล่ลงมากองใหม่ จนบางทีเราลืมไปแล้วว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร เรากำลังสู้กับใคร เพื่ออะไร”

 

ในฐานะที่เป็นผู้นำพรรค เชื่อว่าเราทุกคนรับการวิจารณ์ได้ ตนก็โดนมาตลอด 3 ปี เข้าใจว่าเป็นอิสรภาพในการแสดงออก ตนก็เป็นคนฟังแต่ยังไม่เชื่อ แต่ถ้าถึงขนาดมาจากคนที่เคยขอร้องให้ตนมารับตำแหน่งหัวหน้าในวันที่ไม่มีใครรับ คงต้องมาทบทวนกันใหม่กับเวลาที่เหลืออยู่ ทั้ง 

 

  1. การทำงานของกองอำนวยการเลือกตั้ง
  2. บทบาทของตนเองในตอนนี้

 

“มีคนเขาว่าไว้ ว่าถ้ามีเวลาตัดต้นไม้ 6 ชั่วโมง ฉันจะใช้เวลาลับขวาน 4 ชั่วโมง ในขณะที่ผมทบทวนตัวเองและการทำงานของกองอำนวยการเลือกตั้ง เราอาจจะมีเวลาอีก 3 เดือนที่เหลือหรือน้อยกว่า ผมเห็นว่ายังมีความเป็นไปได้อยู่ 2 ทางที่จะเกิดขึ้นได้ อยากให้คุณปิยบุตรทบทวนเช่นกัน”

 

1. ปิยบุตรต้องเลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามที่ธนาธรเคยขอไว้ กลับมาช่วยกันเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทำให้คนที่เคยปรามาสอนาคตใหม่ ก้าวไกล คิดผิด และอนุญาตให้ตนและอีกหลายร้อยชีวิตที่พรรคมีสมาธิในการทำงานโค้งสุดท้าย

 

หรือ 

 

2. ปล่อยให้เราเสียสมาธิจนเราลืมไปว่าศัตรูตัวจริงของเราคือใคร ทิ้งโอกาสในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทิ้งหยาดเหงื่อแรงงานของสมาชิกพรรค ทีมงานพรรค และปล่อยให้ 3 ป. ยังสืบทอดอำนาจต่อไป

 

“ผมไม่แน่ใจว่าคุณปิยบุตรจะทำแบบนี้ไปอีกเท่าไร ผมว่าพอได้แล้วครับ แล้วมาเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะต่างคนต่างทำก็ตาม”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising