วันนี้ (22 มกราคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในการพิจารณาประเด็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า ประเด็นหลักในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องเศรษฐกิจและสังคม ประเด็นเรื่องการทุจริต และความรวดเร็วในการบริหารราชการแผ่นดิน
โดยพิธากล่าวว่า การอภิปรายในครั้งนี้แน่นอนที่จะต้องล็อกเป้าไปที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรกตามด้วย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยขอให้ประชาชนร่วมกันเฝ้ารอการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ว่าจะเป็นการอภิปรายที่ครบทุกรสชาติ และจะมุ่งเน้นที่ให้ประชาชนได้มองเห็นว่างบประมาณของพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลไม่สามารถที่จะมุ่งใช้ให้สัมฤทธิ์ผลได้ จึงไม่สามารถที่จะไว้วางใจการทำงานรัฐมนตรีที่ได้เปิดอภิปรายให้ทำหน้าที่ในการบริหารประเทศต่อไปได้ เนื่องจากขาดความชอบธรรมในด้านนิติรัฐและนิติธรรม จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ประชาชนจะต้องร่วมกันจับตามองว่าเป็นเรื่องที่ครบในทุกด้านและทุกมิติ
ทั้งนี้ มั่นใจว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะสามารถเขย่าความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล และจะสามารถทำให้ประชาชนตาสว่างได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจำเป็นที่จะต้องทำ เพื่อชี้ให้ประชาชนได้เห็นถึงการบริหารราชการของรัฐบาลชุดนี้
ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลจะพยายามที่ให้ประชาชนได้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมในการบริหารงานของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงปี 2563 และปี 2564 เป็นช่วงที่เกิดวิกฤตร้ายแรงระดับโลกในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะมีการอภิปรายถึงประเด็นเรื่องวัคซีน และประเด็นเรื่องของแรงงาน การบริหารบ่อนการพนัน และการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ให้กับกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
สำหรับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล จะร่วมกันบริหารจัดการเวลาและจัดการสมาชิกในการใช้เวลาร่วมกันเป็นอย่างดี โดยไม่ให้สมาชิกท่านใดตกหล่น และในที่สุดจะต้องไปที่ไปนอกสภาเช่นในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นบทเรียนในการนำมากำหนดกรอบระยะเวลาในการอภิปรายในครั้งนี้ โดย ส.ส. ของพรรคก้าวไกลจะต้องได้รับความเท่าเทียมในการอภิปราย เช่นเดียวกับ ส.ส. ของทุกพรรคในฝ่ายค้าน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์