วันนี้ (24 มกราคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า ยังรู้สึกมั่นใจตลอด วันนี้ตนต้องขอขอบคุณประชาชน สมาชิกพรรคก้าวไกล ที่เป็นกำลังใจต่อสู้มาจนถึงวันนี้ และทีมกฎหมายที่ทำงานอย่างหนัก สำหรับตนยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์
พิธากล่าวว่า เราเตรียมตารางแผนดำเนินงานตลอดทั้งปี เตรียมแผนโรดแมปของพรรค ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรจะทำงานต่อไป โดยในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ เตรียมลงพื้นที่ทำงานต่อภาคเหนือทันที ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้พรรคก้าวไกล ตนจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ส่วนจะเข้าสภาเมื่อไรนั้นต้องหารือกับประธานสภา ให้ทางฝ่ายกฎหมายดำเนินการเอกสารระหว่าง 2 หน่วยงาน
ส่วนคำนิยามการเป็นสื่อของ ITV นั้น พิธากล่าวว่า มั่นใจตามบรรทัดฐานคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง หรือศาลปกครองสูงสุด ว่าการจะเป็นสื่อมวลชนต้องมีใบประกอบต่างๆ เพื่อยืนยัน
เมื่อถามว่าคดีนี้ต่างจากคดีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อย่างไรนั้น พิธากล่าวว่า ศาลเห็นว่ายังมีใบประกอบกิจการ ยังสามารถผลิตนิตยสารได้ แต่ตนได้สอบถามคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้ว ในกรณีของ ITV ไม่มีใบอนุญาตและคลื่นความถี่ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นของไทยพีบีเอสแล้ว
พิธากล่าวว่า ITV จะกลับมาหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตนได้ปันทรัพย์ให้กับน้องชายไปแล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนและชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีใครคิดถึงตำแหน่ง แค่ต้องการจะทำงาน ซึ่งการกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะต้องรอการประชุมวิสามัญของพรรคก้าวไกลในเดือนเมษายนนี้