วันนี้ (6 มิถุนายน) เวลา 12.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการโอนหุ้น ITV ว่าไม่ใช่การขาย แต่โอนให้ทายาทไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในอดีตตนมั่นใจในข้อกฎหมายและหลักฐาน แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามฟื้นคืนชีพ ITV ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจหรือการเมือง ตนจึงตัดสินใจโอนหุ้นให้ทายาท รวมถึงการโอนหุ้นดังกล่าวเพื่อให้การตั้งรัฐบาลดำเนินการได้สำเร็จ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุไม่ห่วงเรื่องการเช็กบิลหลังออกจากอำนาจ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการอะไรอย่างไรหรือไม่ พิธากล่าวว่า เราสามารถอนุมานได้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ คงยินดีเข้าสู่การตรวจสอบ การดำเนินการตลอดระยะเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมา มีการประพฤติผิดมิชอบอะไรบ้าง เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องการเช็กบิล แต่ต้องการให้เกิดวัฒนธรรมรับผิดรับชอบในเรื่องต่างๆ ทั้งในเรื่องการรัฐประหาร การใช้อำนาจตามมาตรา 44 พ.ร.บ.เหมืองแร่ เรื่องการทวงคืนผืนป่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทบต่อประชาชน โดยรัฐบาลจะดำเนินการตามระบบ ไม่ใช่การแก้แค้นแต่อย่างใด
พิธายังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข้อมูลว่าเป็นการขายหุ้น อยากจะออกมาชี้แจงหรือไม่ตอนเห็นข่าว ว่าไม่คิดจะเป็นประเด็นอะไร เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเรื่องที่ต้องชี้แจงทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องหุ้น ITV ก็เป็นไปตามที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก แต่จุดตัดอยู่ที่อนาคตมีโอกาสที่ ITV จะฟื้นฟูกลับมาทำธุรกิจต่อ
“หลายคนก็ออกมาบอกว่ามีความพยายามสกัดกั้นผมออกจากการเมือง ผมได้ยินอย่างนี้แน่นอนว่าต้องกังวล เพราะอดีตกับอนาคตไม่เหมือนกัน อย่างที่บอกว่าอดีตก็คืออดีต แต่ในอนาคตมีความไม่แน่นอนอยู่ ดังนั้นต้องมีความแน่นอน เพื่อให้ตั้งรัฐบาลให้ได้” พิธากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะกระทบคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือไม่ พิธากล่าวว่าต้องดูในรายละเอียด แต่รอทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประสานมา ตนจะได้ชี้แจง เพราะไม่แน่ใจว่าสงสัยในประเด็นใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานว่า กกต. จะส่งหนังสือมาภายในสัปดาห์นี้พร้อมชี้แจงหรือไม่ พิธากล่าวว่าใช่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการโอนหุ้นเป็นการปัดเรื่องให้พ้นตัวหรือไม่ พิธากล่าวว่าเป็นการโอนเพื่อป้องกันอนาคต ในการฟื้นคืนชีพ ITV
“โอนเพื่อป้องกันว่าในอนาคตจะมีการฟื้นคืนชีพ ITV ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจของเขา หรือเป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองในการสกัดกั้นผม เพราะฉะนั้นเราต้องป้องกันความเสี่ยงตรงนี้เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้” พิธากล่าว
