×

เรืองไกรร้องศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบพิธา เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
17.06.2024
  • LOADING...
พิธา พรรคก้าวไกล

วันนี้ (17 มิถุนายน) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีข่าวการเมืองที่สำคัญซึ่งควรติดตามเยอะมาก เช่น เรื่องคุณสมบัตินายกฯ, เรื่องคดีอาญา มาตรา 112 ของอดีตนายกฯ, เรื่องบทกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล 

 

เรืองไกรกล่าวว่า เรื่องการยุบพรรคก้าวไกลอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามข่าวศาลรัฐธรรมนูญที่ 20/2567 วันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา หัวข้อที่ (4) ศาลเห็นว่า ก่อนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย คู่กรณีไม่สมควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคมอันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล

 

เรืองไกรกล่าวว่า ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญออกข่าวดังกล่าว ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งมีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ได้เปิดเผยข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกลลงในเฟซบุ๊กของพิธา รวมทั้ง QR Code คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารวม 70 กว่าหน้า ที่สาธารณชนทั่วไปเข้าถึงและดาวน์โหลดได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฐานเป็นผู้ใดที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคมอันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ตามข่าวที่ 20/2567 หัวข้อที่ (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดอำนาจศาลตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 39 หรือไม่ (รายละเอียดปรากฏอยู่ในเฟซบุ๊กของพิธา)

 

เรืองไกรกล่าวว่า ต่อมาในเฟซบุ๊กของพิธา วันที่และเวลาไม่ปรากฏ แต่ก่อนวันที่ในหนังสือนี้ 3 วัน พิธายังได้โพสต์เฟซบุ๊กต่อเนื่องจากกรณีดังกล่าวอีก (ตามที่ปรากฏในเฟซบุ๊กของพิธา)

 

เรืองไกรกล่าวว่า โดยที่ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 11 กำหนดไว้ว่า

 

ข้อ 9 ศาลอาจออกคำสั่งให้บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการ เพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยสงบเรียบร้อยและรวดเร็ว 

 

ข้อ 10 ห้ามมิให้ผู้ใดบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย

 

ข้อ 11 ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดหรือคำสั่งศาลตามข้อ 8 ข้อ 9 และข้อ 10 ให้ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 39

 

เรืองไกรกล่าวต่อว่า โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 39 บัญญัติว่า

 

มาตรา 39 ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลหรือคำสั่งศาลตามมาตรา 38 ให้ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล และให้ศาลมีอำนาจ

ดังต่อไปนี้ 

 

(1) ตักเตือน โดยจะมีคำตำหนิเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยหรือไม่ก็ได้ 

(2) ไล่ออกจากบริเวณศาล 

(3) ลงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

การสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลพิจารณาเท่าที่จำเป็นตามพฤติการณ์แห่งกรณี การสั่งลงโทษตาม (3) ต้องมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ 

ในการดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาลตาม (3) ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

 

เรืองไกรกล่าวว่า การกระทำของพิธาที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กรวมทั้ง QR Code คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยเปิดเผยซึ่งสาธารณชนทั่วไปเข้าถึงได้ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา และยังได้กระทำการในลักษณะทำนองเดียวกันตามมาอีก ซึ่งอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ศาลได้ตรวจสอบตามหน้าที่และอำนาจต่อไป 

 

เรืองไกรสรุปว่า ในวันนี้ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบพิธา กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน และวันต่อมา ว่าเข้าข่ายฐานเป็นผู้ใดที่กระทำการฝ่าฝืนคำสั่งศาล ตามข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ 20/2567 วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ข้อ (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการละเมิดอำนาจศาลตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 หรือไม่ 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X