วันนี้ (13 สิงหาคม) ที่สหกรณ์เกษตรบ้านน้ำเป็น จังหวัดระยอง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าพร้อมมาก เป็นการทำงานอย่างต่อเนื่องแม้จะผ่านการเลือกตั้งมา 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลหรือนโยบายที่จะได้ทำต่อสามารถทำได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร เราได้ส่ง พงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. เลือกตั้งซ่อม จังหวัดระยอง เขต 3 ซึ่งเป็นคนของพรรคอนาคตใหม่มาก่อน มีอุดมการณ์ในเรื่องของการทำงาน พร้อมเต็มที่ มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้พี่น้องอำเภอแกลงและเขาชะเมาได้
เมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกพงศธรนั้น พิธาระบุว่า เนื่องจากเป็นทีมงานของจังหวัดระยองและภาคตะวันออกมาโดยตลอด หลายครั้งการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลในสภาก็มาจากพงศธร เช่น ปัญหาช้างป่าที่เขาชะเมา มั่นใจว่าจะทำงานอย่างมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองภาพรวมใหญ่จะช่วยดึงคะแนนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน พิธาระบุว่า ประชาชนโหยหาบรรยากาศการเลือกตั้ง บรรยากาศแห่งความหวัง บรรยากาศที่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ในการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นเขต 3 จังหวัดระยอง เราตั้งใจอย่างเต็มที่ ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศฝากมาว่าอยากเห็นบรรยากาศอย่างนั้นเกิดขึ้นที่นี่ ก็พยายามทำให้เต็มที่
เมื่อถามว่าพรรคคู่แข่งอาจใช้กลยุทธ์ส่งผู้สมัครพรรคเดียว ได้เตรียมแผนรองรับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไรบ้าง พิธากล่าวว่า เราทำของเราเต็มที่ก็พอ ซึ่งก่อนจะมาได้ศึกษาการเลือกตั้งในปี 2562 และการเลือกตั้งที่ผ่านมา พบว่าคนมาใช้สิทธิ 77% จาก 100,000 คน คือ 77,000 คน เมื่อมาคำนวณก็พบว่าเรายังนำอยู่
“แต่เราก็ไม่ประมาท และต้องแสดงให้เห็นว่าสำหรับคนที่บอกว่าเลือกตั้งไปทำไม เลือกตั้งไปแล้วไม่มีความหมาย อย่างไรก็ไม่ตรงกับเจตจำนงของเขาอยู่ดีนั้น ต้องมาย้ำให้เขาเข้าใจว่ายิ่งเป็นอย่างนี้ยิ่งต้องเลือกตั้งให้เยอะ อย่าไปยอม ถ้าเขารู้สึกประชาชนหมดหวัง เขาก็จะใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือบังหน้าให้เขาสืบทอดอำนาจได้” พิธากล่าว
พิธายังกล่าวด้วยว่า พี่น้องประชาชนถามว่าเลือกตั้งเป็นรัฐบาลหรือเลือกตั้งเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องยืนยันให้เห็นว่าถ้าเป็นฝ่ายค้านของประชาชน เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลแห่งชาติตามที่สื่อมวลชนหลายคนได้วิเคราะห์ ถ้าเป็นฝ่ายค้านทำงานร่วมกับประชาชนก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน และเรื่องความชัดเจนการเมืองภาคใหญ่ยังไม่นิ่ง แต่เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนยังรออยู่ เราต้องเดินหน้าทำงาน
เมื่อถามว่า 1 เดือนหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่หาเสียงควบคู่ไปด้วยหรือไม่ พิธากล่าวว่า แน่นอน จะได้เห็นตนอยู่ที่ระยองมากขึ้นแน่นอน ตอนนี้ก็บรรยากาศดี ใช้โอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังไม่เคยมาเขาชะเมา เขตอุทยาน ให้มาท่องเที่ยว
เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชนจังหวัดระยอง เขต 3 พิธาระบุว่า เป็นห่วงเรื่องสาธารณสุขของที่นี่ ซึ่งค่าเฉลี่ยของประเทศไทย ประชากร 1,000 คน มีหมอ 1.1 คน ถ้าที่อำเภอแกลงคือ 0.17 คน ถ้าอำเภอเขาชะเมาคือ 0.22 คน ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 10 เท่า ระยองจึงเป็นส่วนที่ตนกังวลมากที่สุด ถ้ามีโอกาสบริหารและรัฐมนตรีสาธารณสุขไม่ใช่คนเดิม เป็นคนของพรรคก้าวไกล ก็คงอยากจะเน้นตรงนี้มากเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะชี้ขาดน้อยมากแค่ไหน พิธากล่าวว่า จะต้องพยายามให้ขาดกว่าเดิม จัดเต็มจัดหนัก ผลการเลือกตั้งชนะอย่างเดียวไม่พอ ชนะให้สะท้อนถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน หลัง 3 เดือนการเลือกตั้งทั่วประเทศแล้วผลไม่ออกมาเป็นอย่างที่ประชาชนให้เจตจำนงมา อยากจะทำตรงนี้ให้ดีพิเศษ ใส่ใจมากเป็นพิเศษ แก้ไขปัญหาประชาชนให้เยอะที่สุด และลงมาให้บ่อย เพื่อให้ตัวเลขที่ออกมาเห็นชัดว่าพี่น้องประชาชนทั่วประเทศส่งพลัง WiFi มาที่ระยอง อยากให้เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ เพราะคนมาใช้สิทธิที่ระยองเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั้งประเทศ และมั่นใจว่าคนระยองต้องการความเปลี่ยนแปลงเหมือนกับคนไทยทั้งประเทศเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่ากรณีของ นครชัย ขุนณรงค์ สส. ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ลาออกไปแล้วกระบวนการจากนี้เป็นอย่างไร พิธากล่าวว่า คงต้องถามนครชัย แต่สิ่งที่พูดถึงได้คือชื่นชมที่ตรงไปตรงมา เสียสละให้กับทางพรรค และจะไปสู้คดีอย่างที่ไม่มีตำแหน่งไม่มียศ ในฐานะคนธรรมดา ซึ่งทางพรรคจะสานต่อเจตนารมณ์ของนครชัยอย่างเต็มที่ และพรรคของเราเป็นพรรคที่ให้โอกาสคน แม้จะมีข้อผิดพลาดในอดีตแล้วรับโทษไปแล้ว กลับตัวมาตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ก็ควรจะให้โอกาสคนในสังคมเช่นเดียวกัน นี่ถือเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกล ขอบคุณที่เสียสละและยังทำงานให้พรรค ซึ่งถ้าเลือกพงศธร ก็ยังมีนครชัยทำงานอยู่ เหมือนได้ สส. เขต 2 คน เป็นโปรโมชันพิเศษ