วันนี้ (8 ตุลาคม) ที่กระทรวงแรงงาน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมการติดตามสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือหรือดูแลแรงงานไทยในอิสราเอลจากภาวะสงคราม โดยมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อสอบถามสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล
โดยมีรายงานว่า ระหว่างที่กิตติ์ธนารายงานสถานการณ์ในอิสราเอลผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่นั้น ได้เกิดเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในระหว่างการประชุม ซึ่งกิตติ์ธนาแจ้งต่อที่ประชุมว่าเป็นเสียงแจ้งเตือนว่าขณะนี้มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นอยู่
พิพัฒน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า แรงงานไทย 8 คนที่ได้บาดเจ็บถูกส่งตัวถึงโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่บาดเจ็บไม่มากส่วนใหญ่ถูกส่งตัวอยู่ในแคมป์คนงานแล้ว ขณะที่แรงงานไทย 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้มีการประสานงานกับสถานทูตไทยในอิสราเอลอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้การช่วยเหลือ ดังนั้นแรงงานไทยทั้ง 19 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้พบครอบครัวและญาติเพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบแล้ว
พิพัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังไม่มีการยืนยันจากรัฐบาลอิสราเอลและเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล พร้อมทั้งประสาน 12 บริษัทนายหน้าจัดหางานเพื่อประสานงานใกล้ชิด ทั้งนี้ แรงงานชาวไทยทั้งหมดกว่า 29,900 คนอยู่ในแคมป์คนงานที่กระจายตัวอยู่ทั้งประเทศซึ่งปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่อยู่ในแคมป์คนงานที่เป็นพื้นที่เสี่ยงอีกประมาณ 5,000 คน ย้ำว่าดูแลแรงงานไทยทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์
“เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้เข้าเยี่ยมครอบครัวและญาติของแรงงานไทยทั้ง 8 คนเรียบร้อยแล้ว ในส่วนว่าจะเยียวยาในลักษณะใดนั้น ต้องดูว่าแรงงานไทยอยู่ในประกันตนหรือไม่ โดยมอบหมายให้กรมจัดหางานและปลัดกระทรวงแรงงานหามาตรการเยียวยาเบื้องต้น รวมทั้งต้องรอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอิสราเอลด้วยว่าจะได้เงินเยียวยาเท่าไร” พิพัฒน์กล่าว
เมื่อถามถึงแรงงานไทยทั้ง 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน พิพัฒน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้ลงไปให้กำลังใจครอบครัวและญาติแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบว่าถูกจับไปไว้ที่ไหน อย่างไร กรณีที่รัฐบาลเตรียมเครื่องบินรอรับแรงงานไทยนั้น ขณะนี้รัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศปิดน่านฟ้า แต่เมื่อไรที่รัฐบาลอิสราเอลประกาศเปิดน่านฟ้าและอนุญาตให้นำเครื่องบินไปรับได้ กองทัพอากาศก็พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีแรงงานไทยแจ้งกลับประเทศหรือไม่ พิพัฒน์กล่าวว่า ยังไม่มีคนแจ้งอยากกลับประเทศไทย แต่มีผู้แจ้งความจำนงจะขอทำงานในอิสราเอลต่อที่เดิม หากมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับ ยืนยันว่ากระทรวงแรงงานจะประสานรัฐบาลอิสราเอลและบริษัทนายหน้าจัดหางานต่างๆ เมื่อเหตุการณ์สงบให้กลับไปทำงานในตำแหน่งเดิม
“ฝากถึงครอบครัว เมื่อติดต่อทางโทรศัพท์หรือติดต่อไม่ได้อย่าเพิ่งตกใจ เพราะการสื่อสารถูกตัดขาด บางพื้นที่ติดต่อได้ บางพื้นที่ติดต่อไม่ได้ เมื่อติดต่อได้เจ้าหน้าที่จะมีการประสานกลับมายังครอบครัว ส่วนผู้ที่ถูกจับเป็นแรงงานด้านการเกษตรทั้งหมด คาดว่าพรุ่งนี้ (9 ตุลาคม) จะแจ้งรายชื่อให้ชัดเจนอีกครั้ง ย้ำว่าเราต้องการตรวจสอบให้ชัดเจนและถูกต้องมากที่สุด” พิพัฒน์กล่าว
