วันนี้ (29 เมษายน) ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ให้สัมภาษณ์กรณีผลการเลือกตั้งซ่อม สส. นครศรีธรรมราช เขต 8 ที่ผู้สมัครพรรคกล้าธรรมเป็นฝ่ายชนะว่า ผลการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติ ใครที่ลงพื้นที่มากกว่าก็ควรเป็นผู้ชนะ ที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจว่าผู้สมัครของพรรคกล้าธรรมอยู่ในอำเภอฉวาง เพราะฉะนั้นการยึดครองพื้นที่ในอำเภอฉวางเป็นเรื่องปกติ ประชาชนก็ต้องเลือกคนในบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนแรกคะแนนของพรรคภูมิใจไทยนำ แต่ทำไมพรรคกล้าธรรมจึงมีคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้ พิพัฒน์กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะคนในพื้นที่เป็นผู้ตัดสินใจ แต่เรื่องการตัดสินใจเราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะสะท้อนถึงการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ พิพัฒน์กล่าวว่า เราคงต้องปรับแผนใหม่ทั้งหมด ซึ่งหากเป็นการเลือกตั้งใหญ่บริบทก็ต้องเปลี่ยนไป หลายพรรคคงมีการปรับเปลี่ยนท่าที โดยเฉพาะพรรคเก่าแก่เขาก็มีฐานส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับผู้สมัครคนที่ผ่านมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ได้ชะล่าใจใช่หรือไม่ พิพัฒน์กล่าวว่า เราคิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว เพราะครั้งที่ผ่านมาเราได้ 23,000 คะแนน แต่ครั้งนี้ได้ 28,000 คะแนน ถือว่า สส. ในพื้นที่ก็ยังครองใจชาวบ้านเขต 8 ได้ แต่ในอำเภอที่เราแพ้ คือ อำเภอพิปูน และอำเภอฉวาง ต้องไปทำการบ้านใหม่ คงต้องไปทบทวนตัวเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดจากอะไร พิพัฒน์กล่าวว่า เกิดจากความนิยมของชาวบ้าน อย่างไรก็ตามเราก็สบายใจ เพราะเราได้คะแนนเพิ่มขึ้น 5,000 กว่าคะแนน ถือว่าฐานเสียงยังคงที่ เราต้องพยายามต่อไป
เมื่อถามถึงกรณี ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่ามีการซื้อเสียง พิพัฒน์กล่าวว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตนพูดอะไรมากไม่ได้
