พิชัย รมว.คลัง เผยว่า เซ็นชื่อผู้ที่เหมาะสมนั่งตำแหน่งผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ไปแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ให้รอลุ้นพรุ่งนี้ ลั่นไม่ว่าเป็นใครก็ทำงานง่ายทั้งนั้น
วันนี้ (14 กรกฎาคม) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า มีการเซ็นเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมนั่งตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ไปแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ให้รอลุ้นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้
“ผมเซ็นเสนอไปแล้ว ไปดูเอาละกัน” พิชัยกล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่าสามารถทำงานร่วมกับแคนดิเดตคนใดก็ได้ เพราะไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างกัน รวมถึงมีความร่วมมือที่ดีต่อกันมาโดยตลอด
“สำหรับผมแล้ว ใครก็ทำงานง่ายทั้งนั้น เพราะที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแบงก์ชาติ เราก็ร่วมมือกันตลอด”
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (คณะกรรมการคัดเลือกฯ) มีมติเสนอรายชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพียง 2 รายชื่อ ได้แก่
- ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
สำหรับประวัติคร่าวๆ ของแคนดิเดตทั้งสองรายชื่อ มีดังนี้
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส ปัจจุบันอายุ 57 ปี มีประสบการณ์ทำงานที่ ธปท. มานานกว่า 20 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนภูมิทัศน์ทางการเงินใหม่ จนนำไปสู่การพัฒนาโครงการ Your Data การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) การยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) อีกทั้งมีส่วนร่วมผลักดันแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
วิทัย รัตนากร แคนดิเดตอีกท่านหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 54 ปี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินมาตั้งแต่ปี 2563 โดยเป็นกำลังสำคัญในการผลักดัน ‘ออมสิน’ ในฐานะธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) เพื่อสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินแก่คนไทยกลุ่ม Unserved และ Underserved เพื่อสอดประสานกับนโยบายภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พิชัยเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Morning Wealth เกี่ยวกับจุดแข็งของแคนดิเดตแต่ละท่านว่า ท่านหนึ่งมีความเข้าใจภาคการคลังและเข้าใจภาคการเงินในระดับหนึ่ง ส่วนอีกท่านหนึ่งก็มีความเข้าใจภาคการเงินค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างไม่ปกติ ไม่เป็นไปตามกลไกพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ พิชัยคาดหวังว่า ผู้ว่าคนต่อไปจะต้องมีความสามารถในการเข้าใจและแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวได้โดยไม่ต้องแทรกแซงค่าเงินบาท
