‘พิชัย’ หารือนอกรอบกับ ‘เศรษฐพุฒิ’ เป็นเวลานานราว 1 ชั่วโมง 30 นาที เห็นพ้องกับ ธปท. ว่าปัญหาประชาชนขาดสภาพคล่องและเข้าไม่ถึง สินเชื่อ เป็นปัญหามากกว่าดอกเบี้ย หลังสถาบันการเงินต่างๆ ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ ชี้ ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ลดดอกเบี้ยย่อมส่งผลต่อกระแสเม็ดเงินลงทุนเข้าไทย
วันนี้ (3 ตุลาคม) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เข้าหารือกับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในหลายประเด็น ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาหนี้ครัวเรือน การแข็งค่าของเงินบาท หลังเข้าร่วมงาน Your Data ข้อมูลของคุณ สู่บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์
โดยพิชัยระบุว่า ตนเองยังคงยึดมั่นในหลักการที่ว่า การตัดสินใจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนเองและ ธปท. มีความเข้าใจกันดีอยู่แล้ว
นอกจากนี้พิชัยยังมองว่า การลดอัตราดอกเบี้ยไม่กี่ Basis Points มีผลไม่เยอะ แต่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนและการเพิ่มสภาพคล่องให้กับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า
“รัฐบาลคิดว่าการลดดอกเบี้ยก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง แต่ผมเชื่อว่า ธปท. จะมีเครื่องมือมากกว่านั้น โดยในส่วนที่ห่วงจริงๆ คือเราอยากเห็นสภาพคล่องไหลกลับมา โดยธปท. ก็เห็นเหมือนที่เราเห็นว่าผู้ปล่อยสินเชื่อ (สถาบันการเงิน) ยังมีความกังวลและไม่กล้าปล่อยมากกว่า เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีสภาพคล่องเหลืออยู่”
พิชัยกล่าวอีกว่า ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางในยุโรป ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งปัจจัยต่างๆ จะมีผลต่อเม็ดเงินทุนที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย
พิชัยมอง ปัญหาหนี้ครัวเรือนรอบนี้แก้ ‘ยากกว่า’ ต้มยำกุ้ง
พิชัยมองว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นเรื่องที่ทุกคนเดือดร้อน และมองว่าการแก้หนี้ครัวเรือนปัจจุบันไม่เหมือนกับช่วงปี 2540 ซึ่งลูกหนี้มีไม่กี่ราย ส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ แต่ปัจจุบันมีหลายล้านบัญชี ทำให้การแก้หนี้ตอนนี้เป็นเรื่องยากกว่า
เชื่อ! ส่งออก-ท่องเที่ยวดีขึ้นในปลายปี แม้บาทแข็ง
สำหรับประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน พิชัยกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงผลกระทบของการแข็งค่าของเงินบาทที่มีผลต่อการส่งออก โดยก็มีการวิเคราะห์กันว่าการส่งออกจะเป็นอย่างไร ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทไม่น่าจะมีผลกระทบ ‘เชิงปริมาณ’ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าการส่งออกของไทยจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 เช่นเดียวกับการท่องเที่ยว
พร้อมทั้งย้ำว่าให้อิสระ ธปท. เป็นผู้ดูแล เนื่องจากการดูแลค่าเงินต้องใช้มาตรการและเครื่องมือหลายอย่าง
พิชัยกล่าวอีกว่า ตนเองและผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เตรียมจะมีการหารือกันอีกครั้งภายในเดือนนี้แบบลงลึกในประเด็นต่างๆ รวมถึงเรื่องกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ
